วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

Lightning connector : สายเชื่อมต่อแบบใหม่ กับปัญหาใหญ่ที่ Apple คาดไม่ถึง : iPhone 5


 Lightning connector : สายเชื่อมต่อแบบใหม่ กับปัญหาใหญ่ที่ Apple คาดไม่ถึง : iPhone 5

จากงานเปิดตัว iPhone 5 (ไอโฟน 5) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากเราจะได้เห็น iPhone 5 (ไอโฟน 5) ที่มีการออกแบบที่เปลี่ยนไปแบบ minor change แล้ว ยังได้เปลี่ยนพอร์ตการเชื่อมต่อแบบใหม่ จากเดิม 30-pin เหลือ 9-pin พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ จากเดิม Dock connector เป็น Lightning connector

ปัจจุบัน เราปฏิเสธไม่ได้ครับว่า iPhone นั้น เป็นสินค้าที่มีอุปกรณ์เสริมเยอะที่สุด หลากหลายที่สุดในวงการสมาร์ทโฟน เห็นได้จากอุปกรณ์เสริมที่ผุดราวกับดอกเห็ด ให้ผู้ใช้งานเลือกใช้ตามใจชอบ แน่นอนครับว่า การเปลี่ยน Dock connector เป็น Lightning connector จากเดิม 30-pin เหลือ 9-pin นี้ ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างแน่นอน

อันที่จริงแล้ว การเปลี่ยนจากพอร์ตแบบ 30-pin มาเป็น 9-pin นี้ ด้วยเหตุผลทางเทคนิคถือว่า เป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะนอกจากจะช่วยให้ตัวเครื่องบางลงได้แล้ว การส่งข้อมูลยังรวดเร็วกว่าเดิมอีกด้วย แต่ปัญหาก็คือ Apple เปลี่ยนมาใช้ช้าเกินไป อย่าลืมนะครับว่า iPhone รุ่นแรกนั้น เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2007 และใช้ Dock connector แบบนี้มาตลอด ไม่ใช่เฉพาะ iPhone เท่านั้น แต่รวมถึงผลิตภัณฑ์ในตระกูล iPods ด้วย นอกจากนี้ ปัจจุบันมีคนใช้ผลิตภัณฑ์ Apple เป็นจำนวนมาก แค่ iPhone รุ่นเดียว ก็เกิน 30-40 ล้านคนเข้าไปแล้ว ฉะนั้น การเปลี่ยน Dock connector แบบหักดิบ ย่อมมีผลกระทบในวงกว้าง


แม้ว่า Apple จะเปิดตัวหัวแปลง หรือ Lightning to 30-pin Adapter ออกมา แต่จากการพิสูจน์และทดลองใช้ พบว่า ไม่สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ได้ทุกประเภท คือ ตอบโจทย์ แต่ไม่ครอบคลุมนั่นเอง ซึ่งความเปลี่ยนแปลงของ Dock connector มาเป็น Lightning connector คือ การลดจำนวนขาการเชื่อมต่อลง จากเดิม 30 ขา หรือ 9 ขา ซึ่งขาที่ถูกตัดออกไปนั้น การส่งสัญญาณภาพและเสียง หรือ iPod output ฉะนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อนี้ เช่น เครื่องเสียงในรถยนต์ ที่ต้องใช้ iPod output ในการกดค้นหาเพลงผ่านเครื่องเสียงบนรถยนต์ พอโดนตัดออกไป ก็จะไม่สามารถใช้งานได้แล้วครับ แม้ว่าจะมี Adapter มา ก็ไม่สามารถแก้ไขในจุดนี้ได้ เนื่องจากรายละเอียดของ Lightning to 30-pin Adapter บนเว็บไซต์ Apple ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "Video output not supported" นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริม 30-pin บางอย่าง ก็ไม่รองรับด้วย


ใครได้ประโยชน์จากการเปลี่ยน Dock connector มาเป็น Lightning connector?

คนแรกที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ก็คือ Apple ครับ เพราะอย่างน้อยก็ต้องมีรายได้จากการขาย Lightning to 30-pin Adapter อยู่แล้ว (ราคา $30 ในไทยขาย 1,090 บาท) ส่วนอีกคนก็คือ ผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายอุปกรณ์เสริมครับ เชื่อได้เลยว่า ก่อนหน้าที่ iPhone 5 จะเปิดตัว ทางฝั่งผู้ผลิตคงได้ทราบข่าวการเปลี่ยนแปลงกันมาบ้างแล้ว ฉะนั้น การเตรียมผลิตของใหม่จึงไม่ใช่เรื่องยาก กลับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่จะได้ขายของใหม่ๆ ซึ่งไม่แน่ว่า อาจจะผลิตเสร็จ มีของในสต็อกเรียบร้อยแล้วก่อน iphone 5 จะเปิดตัวก็ได้ครับ ซึ่งสำนักข่าวดังอย่าง New Yorks Times เชื่อว่า Lightning connector จะช่วยทำให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมกว่า 100 แห่งทั่วโลก สามารถหารายได้จากจุดนี้ได้อย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้วคนที่เสียประโยชน์ ก็คือ ผู้ใช้งานอย่างเราๆ นั่นเอง อย่าลืมว่า อุปกรณ์ Apple นั้น เป็นแบบ ecosystem ครับ ผมเชื่อว่า คนที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Apple นั้นกว่าร้อยละ 90 คงไม่มีใครซื้อเพียงแค่อย่างเดียวแน่นอน มี iPhone ก็ต้องมี iPad มี iPod หรือแม้แต่ MacBook, Apple TV ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ สามารถเชื่อมโยงกันได้ผ่าน iCloud นั่นเอง จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจว่า เหตุใดเราเห็นคนเปิด MacBook ใช้อยู่ใน Starbucks จึงจะต้องมี iPhone วางขนาบข้างด้วย

ใช่ว่าอุปกรณ์เสริมที่รองรับแบบ 30-pin จะขายไม่ได้นะครับ จริงๆ แล้วยังสามารถทำตลาดอยู่ได้ แม้จะได้รับผลกระทบบ้างก็ตาม

INFO: http://toptenthailand.com

วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

เปิดตัวแล้ว Galaxy Note II ในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 22,900 บาท


เปิดตัวในงาน IFA 2012 ที่เยอรมนีไปเมื่อปลายเดือน ก็ถึงคิวมาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างรวดเร็วกับเจ้า Galaxy Note II สมาร์ทโฟนในกลุ่ม phablet ของซัมซุง
สเปครุ่นที่ขายในไทยไม่ต่างอะไรกับรุ่นขายทั่วโลก (ดูได้จากข่าวเปิดตัว) สำหรับส่วนที่เพิ่มเข้ามาจากรุ่นแรกแบบชัดๆ มีดังนี้
  • หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 5.5" ความละเอียด 1280x720 พิกเซล (สเกลเปลี่ยนเป็น 16:9)
  • ใช้หน้าจอ HD Super AMOLED Plus ลาก่อน pentile
  • ชิป Exynos 4412 ความถี่ 1.6GHz ควอดคอร์
  • แบตเตอรี่เพิ่มเป็น 3100 mAh
  • รองรับ NFC แล้ว
  • แรม 2GB
  • ปากกา S Pen รับแรงกดได้ 1,024 ระดับ เท่ากับ Note 10.1
ราคาของ Galaxy Note II เปิดมาแล้วที่ 22,900 บาท ตัวเครื่องรองรับความถี่ 3G แบบควอดแบนด์ (ไม่ต้องซื้อแยกแล้ว!) วางขาย 8 ตุลาคมนี้

INFO: http://www.blognone.com

วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก 10 กันยายน ของทุกปีเป็น

ดอกสะมาเรีย สัญลักษณ์การป้องกันการฆ่าตัวตาย

องค์การอนามัยโลก รายงานตัวเลขที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับสถิติ การฆ่าตัวตาย พบว่า ในแต่ละปีทั่วโลกจะมีคนฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่า 1 ล้านคน โดยเฉลี่ยแล้วจะมีคนฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คนในทุก 40 วินาที และทุก ๆ 1 รายที่ฆ่าตัวตายสำเร็จ มักจะมีญาติใกล้ชิดอีกกว่า 20 รายพยายามฆ่าตัวตายตาม

ความรุนแรงของปัญหาดังกล่าวทำให้องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ วันที่ 10 กันยายน ของทุกปีเป็น วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก หรือ World Suicide Prevention Day โดยประกาศเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2003 หรือ พ.ศ. 2546 ในแต่ละปีจะมีคำขวัญเพื่อการรณรงค์ในมิติต่าง ๆ

ในปีนี้องค์การอนามัยโลกกำหนดคำขวัญวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกไว้ว่า Suicide Prevention across the Globe : Strengthening Protective Factors and Instilling Hope

ถอดความเป็นภาษาไทยว่า การป้องกันการฆ่าตัวตายทั่วโลก : เพิ่มปัจจัยปกป้องและให้พลังแห่งความหวัง

ข้อมูลการฆ่าตัวตายของ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2554 มีคนไทยฆ่าตัวตายทั้งสิ้น 3,873 ราย แยกเป็น ชาย 2,985 คน และหญิง 888 คน คิดเป็น 6.03 คนต่อประชากรแสนคน

เป็นที่น่าสังเกตว่า 10 จังหวัดที่มีสถิติคนฆ่าตัวตายสูงสุดเป็นจังหวัดภาคเหนือตอนบนและภาคเหนือตอนล่างแทบทั้งสิ้น ดังต่อไปนี้ ลำพูน ระยอง เชียงใหม่ น่าน เชียงราย พะเยา เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ แพร่ และอุตรดิตถ์ คงมีเพียงเมืองชายทะเลตะวันออกระยองจังหวัดเดียวที่สอดแทรกขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2

เสียดายจากข้อมูลไม่ได้ให้รายละเอียดว่าสาเหตุของการฆ่าตัวตายส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาอะไรบ้าง...???

ทว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนทั่วโลกและคนไทยฆ่าตัวตายล้วนเกิดจากการเป็น โรคซึมเศร้า มาก่อนแทบทั้งนั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่าอัตราการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังในไทย มีเพียงร้อยละ 3.94

แสดงว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 100 คน จะเข้าถึงบริการได้รับการรักษาเพียง 3 คน…!!!

เป็นผลให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้ารุนแรงจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายสำเร็จมากกว่าคนทั่วไปถึง 20 เท่า...!!!

หากปัญหาโรคซึมเศร้าไม่ได้รับการแก้ไข อาจพบว่าสังคมไทยจะมีการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในอนาคต

เทียบกับอัตราฆ่าตัวตายของโลกค่าเฉลี่ยไม่เกิน 6.5 คนต่อประชากรแสนคน อัตราเสี่ยงมีค่าอยู่ระหว่าง 6.5-13 และอัตราฆ่าตัวตายสูงมีค่ามากกว่า 13 คนต่อประชากรแสนคน

ประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้ อัตราการฆ่าตัวตายอยู่ในเกณฑ์สูงมาก เช่น ญี่ปุ่น มีสถิติอยู่ที่ 24.1 คน ส่วนภูมิภาคอื่น ๆ ศรีลังกา 21.6 คน สหรัฐอเมริกา 10.5 คน สวีเดน 13.5 คนต่อประชากรแสนคน

นับว่ายังเป็นข่าวดีอยู่บ้างที่ในรอบ 7 ปีมานี้ สถิติการฆ่าตัวตายของไทยไม่ถึง 6.5 ต่อประชากรแสนคน อาจจะมีช่วงหลัง วิกฤติต้มยำกุ้ง ในปี 2542 ที่มีอัตราฆ่าตัวตายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 8.6 ต่อประชากรแสนคน แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ลดลงตามลำดับ ในข่าวดีก็ยังมีข่าวร้ายปนอยู่บ้างเช่นกัน เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ว่า ช่วงอายุขัยของคนที่ฆ่าตัวตายยังคงมีสูงในช่วงอายุตั้งแต่ 20-59 ปี ซึ่งคนวัยนี้ถือเป็นประชากรใน วัยทำงาน ที่มีผลต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม

INFO: http://www.dailynews.co.th

อนามัยโลกเตือนระวังไวรัสอันตรายคล้ายซาร์ส

องค์การอนามัยโลก(ฮู)ประกาศเตือนทั่วโลกให้ระวังไวรัสตัวใหม่คล้ายโรคซาร์ส (ทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง)



วันนี้ (25 ก.ย.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษว่า องค์การอนามัยโลก (ฮู) ได้ประกาศเตือนทั่วโลกให้ระวังไวรัสตัวใหม่คล้ายโรคซาร์ส (ทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง) ซึ่งทำให้ชายผู้หนึ่งจากประเทศกาตาร์ล้มป่วย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่กรุงลอนดอน ขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยอีก 1 รายเสียชีวิตแล้วที่ประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อต้นปีนี้


องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ชายวัย 49 ปี ถูกนำตัวเข้าห้องไอซียูของโรงพยาบาลในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและไตวาย จากนั้นจึงถูกส่งตัวมายังประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา


ส่วนผู้ป่วยอีกรายนั้นเสียชีวิตเมื่อต้นปีนี้ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ด้วยเชื้อไวรัส แต่ทางการซาอุฯกำลังตรวจสอบอยู่มีสาเหตุอื่นๆอีกด้วยหรือไม่
องค์การอนามัยโลกยืนยันด้วยว่า โรคนี้มาจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในคนและสัตว์ แต่ไม่ใช่โรคซาร์ส ซึ่งเคยระบาดหนักในประเทศจีนเมื่อปี 2546 คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 800 ศพทั่วโลก


โฆษกองค์การอนามัยโลก แถลงว่า ไวรัสตัวนี้เป็นไวรัสตัวใหม่ ยังไม่เคยพบผู้ป่วยลักษณะนี้มาก่อน และยังไม่ทราบว่าติดต่อได้อย่างไร

INFO: http://www.dailynews.co.th

iPhone 5 ตัวเครื่องเป็นรอยและสีหลุดลอกง่าย

หลังจากที่ iPhone 5 วางขายอย่างเป็นทางการ (แถมโดนเจลเบรคเรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่วางขาย) ก็เริ่มมีผู้ใช้รายงานว่าพบปัญหาออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว โดยมีหลายคนที่พบปัญหา iPhone 5 มีจุดเหลืองที่จอ

แต่ล่าสุดจากการทดสอบของหลายๆ เว็บไซต์ รวมถึงมีรายงานจากผู้ใช้ที่ซื้อ iPhone 5 พบว่าตัวเครื่องเกิดอาการสีลอก และเป็นรอยง่าย ตัวเครื่องในส่วนที่เป็นอลูมิเนียมนั้นทำมาจาก Anodized Aluminium และผ่านการชุบสีอีกที จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สีหลุดหลอกง่าย และด้วยการที่เป็นอลูมิเนียมจึงไม่แปลกอีกเช่นกันที่จะเป็นรอยง่ายกว่า ฝาหลังที่เป็นกระจกแบบ iPhone 4/4S

แนะนำว่าหากไม่อยากเห็น iPhone 5 ในสภาพสีหลุดลอก ก็คงต้องหาเคสมาใส่ครับผม เผื่อความสวยงามของ iPhone 5 ของเราจะได้อยู่กับเจ้าของไปนานๆ ส่วนความคืบหน้า การวางขาย iPhone 5 ในไทย มีข่าวออกมาว่า iPhone 5 จะเปิดตัวในไทย 18 ตุลาคมนี้

ด้านหลัง iPhone 5


ภาพด้านบนมาจากการทดสอบของทีม ifixit ครับ ใช้กุญแจขุดที่ฝาหลังตรงส่วนที่เป็นกระจกและอลูมิเนียม ผลก็ออกมาเยินแบบภาพที่เห็นแหละครับ แต่ที่น่าสนใจคือตัว กระจกของเลนต์กล้อง ที่ทำมาจาก Sapphire Crystal พบว่ามันสามารถป้องกันรอยได้ทีมากๆ



  ขอบด้านข้างของ iPhone 5



 ใช้เหรียญลองขุดกับขอบของ iPhone 5 ปรากฏว่าเป็นรอย และสีลอกออก



ตัวนี้เป็นรอยทั้งฝาหลัง และขอบด้านข้างสีลอก
 ตัวนี้สีลอกตรงมุมอีก


INFO:  http://www.mobiledista.net

โรคประหลาดคล้ายเอดส์ แต่ไม่ใช่เอดส์


นักวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ หรือ NIH ของสหรัฐ เผยแพร่รายงานการวิจัยลงในเวบไซต์ของวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ ระบุว่า โรคใหม่คือ  โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองในวัยผู้ใหญ่ หรือ อดัลต์ ออนเซ็ต อิมมูโนดีเฟียนซี ซินโดรม (adult-onset immunodeficiency syndrome)  ผู้ป่วยจะมีปัญหาระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรค และจะมีอาการป่วยคล้ายกับโรคเอดส์ แม้ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีก็ตาม โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อจากคนสู่คน ไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และมักเกิดในผู้ใหญ่มีอายุตั้งแต่เกือบ 50 ปีขึ้นไป

ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยกว่า 200 คนที่ทำการศึกษา จะสร้างสารที่เรียกว่าแอนตี้บอดี้ทำลายตัวเอง ขึ้นมาปิดกั้นอินเตอร์เฟอรอน แกมมา สารโปรตีนในร่างกายที่จะช่วยยับยั้งการติดเชื้อต่าง ๆ ทำให้ร่างกายสามารถติดเชื้อไวรัส รา ปรสิต และโดยเฉพาะแบคทีเรียได้ง่าย ทำให้เชื่อว่าจะสามารถหาทางรักษาโรคนี้ได้ด้วยการพุ่งเป้าไปที่เซลล์ที่ผลิตแอนตี้บอดี้ทำลายตัวเอง (คมชัดลึกออนไลน์ 30 สิงหาคม 2555)






โรคประหลาดคล้ายเอดส์  เป็นโรคที่ไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี  พบมานับ 10 ปี   เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้มีอาการป่วยจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสชนิดต่างๆ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มมัยโคแบคทีเรีย การติดเชื้อราที่อาการรุนแรง เป็นต้น ผู้ป่วยจะมาด้วยอาการไข้เรื้อรัง ต่อมน้ำเหลืองอักเสบหลายแห่ง ร่วมกับปอดอักเสบ ฝีตามอวัยวะต่างๆ รวมทั้งผิวหนังอักเสบเป็นหนอง

โรคดังกล่าว ไม่ใช่โรคติดต่อ พบไม่บ่อย และไม่รู้สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติเหมือนอย่างโรคเอดส์ที่รู้ว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่อง และไม่ได้เกิดจากรับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกันต่าง ๆ  โรคนี้พบมากในชาวเอเชียรวมทั้งคนไทย  มักเกิดในผู้ใหญ่อายุเฉลี่ย 40-50 ปี

การรักษาผู้ป่วยในปัจจุบัน เป็นการรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาสด้วยยาต้านจุลชีพ ผู้ป่วยอาจมีการดำเนินโรคแตกต่างกัน การรักษาขณะนี้ ทำให้โรคติดเชื้อฉวยโอกาสสงบ แต่อาจมีการกำเริบหรือพบการติดเชื้อฉวยโอกาสอื่นๆเป็นครั้งคราว

ขณะนี้คณะผู้วิจัยซึ่งเป็นแพทย์โรคติดเชื้อจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทยได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล รวมถึงคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณะผู้วิจัยจากสถาบันสุขภาพอเมริกา ได้ทำการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีการสร้างสารแอนติบอดีต่อสารอินเตอร์เฟอรอนแกมม่า ทำให้ภูมิคุ้มกันซึ่งใช้ป้องกันการติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ ดังกล่าวผิดปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการป่วยจากการติดเชื้อฉวยโอกาสเหล่านั้น ซึ่งขั้นต่อไปคณะผู้วิจัยกำลังวางวิจัยเพื่อให้รู้สาเหตุการก่อโรค เพื่อจะได้วางแผนการรักษาโรคนี้ให้หายขาด

ดังนั้นหากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรมารับการตรวจตามขั้นตอนจากแพทย์โรคติดเชื้อ  เพราะการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องแม้ไม่หายขาด แต่ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ



ขอบคุณข้อมูลจาก  ศ.พญ. ยุพิน ศุพุทธมงคล  ภาควิชาอายุรศาสตร์
Faculty of Medicine Siriraj Hospital คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล


INFO: http://www.vcharkarn.com/varticle/44064

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

Jailbreak iOS 6 Tethered ด้วย Redsn0w 0.9.13 สำหรับ Chip A4 : iPhone, iPad, iPod + Cydia iOS 6


Jailbreak iOS 6 อัพเดทควาเคลื่อนไหวกับ iTAllNews.com หลังการปล่อย iOS 6 GM ตัวเต็มออกมาจากทาง Apple.com ได้ไม่กี่ชั่วโมงทีมงาน Dev-Team ได้เคลื่อนไหวปล่อย Redsn0w 0.9.13 dev 4 เครื่องมือสำหรับการ Tethered Jailbreak iOS 6 Gold Master ออกมาอย่างรวดเร็ว เป็นการเจลเบรคสำหรับ Chip A4 บน iPhone, iPod, iPad : วิธีการ Jailbreak iOS 6 ละเอียดสมบูรณ์ฉบับภาษาไทย

  
 สิ่งที่ต้องมีสำหรับการใช้งานด้วย Redsn0w 0.9.13 Dev 4

 1. Download
    Redsn0w 0.9.13 Dev 4 for Windows
    Redsn0w 0.9.13 Dev 4 for Mac
​ 2. iTunes เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
​ 3. iDevice อัพเดต iOS 6 เรียบร้อยแล้ว


สำหรับ : Jailbreak : iPhone 4 iPhone 3GS iPod Touch 4G

วิธีการ Jailbreak iOS 6 ด้วย RedSn0w 0.6.13 Dev 4

 STEP 1: เทำการอัพเดต iOS 6 ให้เรียบร้อยเสียก่อน : วิธีอัพเดท iOS 6 ..Click

 STEP 2: จัดการ iPhone ให้เข้าสู่ DFU Mode : วิธีเข้าสู่ DFU Mode ..Click
  •     กด ปุ่ม Power 3 วินาที
  •     กดปุ่ม Power + Home ( พร้อมกัน ) 10 วินาที
  •     ปล่อยปุ่ม Power แต่ยัง กดปุ่ม Home ค้างไว้อีก 15 วินาที ( ปล่อยปุ่ม Power อย่างเดียว )

 STEP 3: จากนั้นทำการเปิด RedSn0w 0.6.13 Dev 4 ขึ้นมาโดยการคลิ๊กขวาเลือก Run as Admin form Windows


 STEP 4: ทำการเลือก Extras


 STEP 5: เลือก Select IPSW ทำการเลือก IPSW ให้ตรงรุ่นด้วยนะครับ


 STEP 6: จากนั้นเลือกให้เราทำการกด Back ไปที่หน้าจอแรก และกด Jailbreak แล้วจะมีข้อความ preparing jailbreak data จากนั้นให้เลือก Install SSH Cydia is not available on iOS 6 yet กด Next แล้วรอ Redsn0w ทำงานจนเสร็จ

 STEP 7: เมื่อเรียบร้อยแล้วให้เราทำ iPhone ให้เข้าสู่ DFU Mode อีกครั้ง

    กด ปุ่ม Power 3 วินาที
    กดปุ่ม Power + Home ( พร้อมกัน ) 10 วินาที
    ปล่อยปุ่ม Power แต่ยัง กดปุ่ม Home ค้างไว้อีก 15 วินาที ( ปล่อยปุ่ม Power อย่างเดียว )

​ STEP 8: กลับมาที่ Redsn0w กด Back และเลือก Just Boot รอนิดหน่อย เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยสำหรับการ Jailbreak iOS 6


วิธีการติดตั้ง Cydia บน iOS 6

STEP 9: เปิด iPhone ขึ้นมาไปที่ Setting > WiFi เลือก Arrow next ตั้ง Wi-Fi ในวงเดียวกับ Computer ขอเรานะครับ แล้วตั้ง IP iPhone ซักเลขนึงเอาตัวอย่างว่า 10.0.1.27



 STEP 10: ไปที่ Computer เปิดหน้า Dos (Terminal) ขึ้นมาแล้วพิมพ์ว่า ssh root@10.0.1.27



 STEP 11: รอไม่กี่วิ จะพบว่า Computer ของเรากับ iPhone เชื่อมต่อกันเสร็จแล้วให้เราพิพม์ Password : alpine เข้าไปครับ จากนั้นพิพม์คำสั่ง (ด้านล่าง) ที่เห็นลงไป

wget -q -O /tmp/cyinstall.sh http://downloads.kr1sis.net/cyinstall.sh
&& chmod 755 /tmp/cyinstall.sh && /tmp/cyinstall.sh

 STEP 12: แล้วก็รออีกนิดหน่อยครับ… พอเสร็จอุปกรณ์ iPhone ของเราจะ Reboot หลังรีบูทให้ทำการ Tethered Boot กับ RedSn0w 0.6.13 Dev 4 ด้วยนะครับ และเสร็จแล้วก็จะพบกับ Cydia บน iOS 6 เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน Dev Team



วีดีโอคลิปสาธิตการ Jailbreak iOS 6 GM

OK ใครยังงง อยู่ก็ดูวีดีโอคลิปจาก iDownloadblog กันซักหน่อยนะครับ วิธีการรายละเอียดต่างกันบ้างเล็กน้อยแต่ก็ได้เหมือนกันทั้ง 2 แบบ ครับจัดไป

 


INFO: http://www.itallnews.com/all/jailbreak-ios-6-tethered-ด้วย-redsn0w-0-9-13-สำหรับ-chip-a4-iphone-ipad-ipod-cydia-ios-6/

Google Maps บน iOS6


iOS 6 ก็เริ่มเปิดตัวให้ดาวน์โหลดกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่หายไปในเวอร์ชั่นนี้ก็คือ Youtube และ Google Maps ถ้าใครคิดถึง Youtube ก็สามารถเข้าไปโหลดใน App store มาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่ Google Maps นี่สิถูกแทนด้วยแผนที่ของแอปเปิ้ลเอง แถมยังไม่มีแอพให้โหลดซะด้วยสิ

ถึงแม้ว่าแผนที่ใหม่ของแอปเปิ้ลจะสวยงาม ด้วยระบบสามมิติ ทำงานได้เร็วกว่า แถมยังมีระบบนำทางแบบ turn-by-turn ที่ Google Maps ยังไม่เคยใส่มาบน iOS แต่แผนที่ใหม่นี้ก็ยังมีจุดอ่อนหลายๆอย่างเช่น ข้อแรก POI (สถานที่ที่น่าสนใจ) ยังน้อยกว่า Google Maps มาก นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะหาบางสถานที่ไม่เจอเพราะยังไม่มีข้อมูลใน ระบบ ข้อสองก็คือแผนที่ใหม่นี้ไม่มีข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะ อย่างรถเมล์ ทำให้คนที่ใช้ค้นหารถสายที่ต้องการลำบากขึ้น ทางกูเกิลเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย เพราะพวกเค้าก็กำลังเร่งพัฒนาแอพ Google Maps บนไอโฟนอยู่ เพียงแต่ยังไม่เสร็จเท่านั้นซึ่งตอนนี้ก็ทำได้แค่รอเท่านั้น แต่ถ้าใครไม่อยากรอ ซีก็มีวิธีแก้ขัดชั่วคราวมากระซิบบอก

ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีแอพออกมาให้โหลดกัน แต่คุณก็ยังสามารถใช้งานได้ผ่าน HTML 5 บน Web app ถ้าคุณลง iOS 6 บนไอโฟนเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เปิด Safari ขึ้นมา แล้วเข้าไปที่ maps.google.com ต่อจากนั้นก็คลิกปุ่ม export ที่อยู่ตรงกลางของ menu bar เพื่อเป็นการเซฟแอพลงไปบนหน้า homescreen เมื่อมันทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะเห็นไอคอน “Google Maps” โผล่อยู่บนหน้า homescreen แน่นอนว่า Google Maps ตัวนี้จะทำงานด้วย HTML 5 บน Safari จึงทำให้ทำงานไม่เร็วเท่าหรือสวยงามเท่าใน iOS 5 แต่ฟีเจอร์ต่างๆก็ยังอยู่ครบ ทั้งการหาเส้นทางระบบขนส่งมวลชน เส้นทางเดินเท้า ระบบนำทาง GPS การแชร์พิกัดต่างๆ

ถ้าใครอยากใช้ Google Maps บน iOS 6 ก็ต้องใช้แบบนี้แก้ขัดไปก่อนนะ รอจนกว่ากูเกิลจะทำแอพอย่างเป็นทางการเสร็จเรียบร้อยก่อน

INFO:  www.dailygizmo.tv

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

การ Jailbreak iOS6 ใน 6 ขั้นตอนง่ายๆ

 ยังเป็น Version tethered อยู่ ใครใจร้อนอยากทดสอบก่อน ก็จัดกันไปพลางๆก่อน untethered จะออก

Step 1:
Download iOS 6

Step 2: Download Redsn0w
Redsn0w for Windows
Redsn0w for Mac

Step 3: แตกไฟล์ที่โหลดออกมา
Step 4: เปิด RedSn0w ขึ้นมา (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปิดในโหมด Administrator

Step 5: เลือกที่ Extras จากนั้นก็เลือก Firmware IPSW file ที่โหลดมา.

Step 6: จากนั้นก็เข้ากระบวนการตาม RedSn0w และเข้า DFU Mode ครับ

***อ่านให้ละเอียดก่อนจะทำ

การ Jailbreak iOS6 เป็นความเสี่ยงที่ควรทราบก่อนดำเนินการ


Credit : คุณ mytohn จากเวป pdamobiz.com

Jailbreak iOS6 iPhone And iPod touch (A4-Based เท่านั้น) Redsn0w [tethered ]


INFO: http://www.weliketochoice.com

iOS6 วิธีแก้ไข Youtube และ Google Map


iOS6 มีอะไรใหม่

แผนที่

  • แผนที่แบบเวกเตอร์ออกแบบโดย Apple
  • ระบบนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวพร้อมเสียงนำทางบน iPhone 5, iPhone 4S, iPad Wi-Fi + -Cellular (รุ่นที่ 2 และ รุ่นที่ 3)
  • ข้อมูลสภาพการจราจรสด
  • Flyover สำหรับมุมมองโต้ตอบแบบ 3D เป็นภาพจริงของผังเมืองหลักบน iPhone 5, iPhone 4S, iPad (รุ่นที่ 3) และ iPod touch (รุ่นที่ 5)
  • ผลค้นหาภายในท้องถิ่นเกี่ยวกับรูปภาพ การจัดอันดับ วิจารณ์ และข้อเสนออื่นๆ จาก Yelp
  • การผสานงานกับ Siri สำหรับขอเส้นทาง และค้นหาสถานที่ต่างๆ ตามเส้นทาง

การปรับปรุง Siri
  • กีฬา: แต้ม สถานะผู้เล่น ตารางแข่งขันเกม รายชื่อทีม และรายงานสดของลีก สำหรับเบสบอล -บาสเกตบอล รักบี้ ฟุตบอล และฮอกกี้
  • ภาพยนตร์: ตัวอย่างภาพยนตร์ รอบฉาย วิจารณ์ และข้อเท็จจริง
  • ร้านอาหาร: การจอง วิจารณ์ รูปภาพ และข้อมูล
  • ส่งทวีต
  • โพสต์ไปยัง Facebook
  • เปิดแอปฯ
  • การรองรับใช้งานแบบไม่ต้องละสายตาขณะขับรถ
  • การค้นหาภายในท้องถิ่นของ Siri สำหรับประเทศที่รองรับ (ความพร้อมใช้อาจจะจำกัดในระหว่างเปิดตัวช่วงแรก)
  • การรองรับภาษาและประเทศเพิ่มเติมสำหรับประเทศแคนาดา (ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสแคนาดา) ประเทศจีน (ภาษาจีนกลาง) ฮ่องกง (ภาษากวางตุ้ง) ประเทศอิตาลี (ภาษาอิตาลี) ประเทศเกาหลี (ภาษาเกาหลี) ประเทศเม็กซิโก (ภาษาสเปน) ประเทศสเปน (ภาษาสเปน) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ (ภาษาอิตาลี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน) ไต้หวัน (ภาษาจีนกลาง) สหรัฐอเมริกา (ภาษาสเปน)
  • การรองรับสำหรับ iPhone 5, iPhone 4S, iPad (รุ่นที่ 3) และ iPod touch (รุ่นที่ 5)

การผสานงานกับ Facebook
  • ลงชื่อเข้าเพียงครั้งเดียวในการตั้งค่า
  • โพสต์จากรูปภาพ, Safari, แผนที่, App Store, iTunes, Game Center, ศูนย์การแจ้ง และ Siri
  • เพิ่มที่ตั้งและเลือกผู้ร่วมสำหรับรายการโพสต์ใดๆ
  • ดูรูปภาพโปรไฟล์ล่าสุดของ Facebook และข้อมูลติดต่อที่อยู่ในรายชื่อ
  • ดูกิจกรรม Facebook และวันเกิดในปฏิทิน
  • แสดงความถูกใจกับข้อคิดเห็น และดูความถูกใจของเพื่อนๆ ของคุณใน App Store และ —-iTunes Store

กระจายภาพแบ่งปัน
  • แบ่งปันรูปภาพที่เลือกกับบุคคลที่คุณเลือก
  • เพื่อนๆ สามารถดูรูปภาพแบ่งปันในแอปฯ รูปภาพ, iPhoto และ Apple TV
  • เพื่อนๆ สามารถแสดงความถูกใจ และให้ข้อคิดเห็นกับรูปภาพแต่ละรูป

Passbook
  • ที่เก็บภายในที่เดียวกันสำหรับบัตรขึ้นเครื่อง บัตรร้านค้า ตั๋วภาพยนตร์ และบัตรผ่านอื่นๆ
  • ป้ายแถบรหัสสำหรับขึ้นเครื่องของเที่ยวบิน ซื้อกาแฟ เข้าชมภาพยนตร์ และกิจกรรมอื่นๆ
  • บัตรผ่านแสดงตามเวลาหรือที่ตั้งบนหน้าจอล็อก
  • บัตรผ่านอัปเดตโดยอัตโนมัติ
  • รองรับกับ iPhone และ iPod touch

การปรับปรุง FaceTime
  • การรองรับ FaceTime ผ่านทางเซลลูลาร์สำหรับ iPhone 5, iPhone 4S และ iPad Wi-Fi + Cellular (รุ่นที่ 3)
  • รับสายโทร FaceTime ของเบอร์โทรศัพท์ iPhone ของคุณได้บน iPad และ iPod touch ของคุณ

การปรับปรุงโทรศัพท์
  • ห้ามรบกวนเพื่อระงับสายโทรเข้าและการแจ้งเตือน
  • ตัวเลือก ‘ตอบกลับเป็นข้อความ’ เวลาไม่รับสายโทรศัพท์
  • ตัวเลือก ‘เตือนฉันภายหลัง’ ทำงานขึ้นอยู่กับเวลาหรือที่ตั้งเวลาไม่รับสาย

การปรับปรุง Mail
  • กล่องเมล VIP ทำให้เข้าถึงเมลจากบุคคลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
  • กล่องเมลสำหรับอีเมลที่ติดธงอยู่
  • แทรกรูปภาพและวิดีโอเวลาเขียนอีเมล
  • เปิดเอกสารประเภท Office ที่ใส่รหัสผ่านป้องกัน
  • ดึงลงเพื่อรีเฟรชกล่องเมล
  • ลายเซ็นต่อบัญชี

การปรับปรุง Safari
  • แถบ iCloud สำหรับดูหน้าที่เปิดอยู่บนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ
  • รายการอ่านเวลาไม่ได้ออนไลน์
  • การรองรับการอัปโหลดรูปภาพ
  • หน้าจอแนวนอนเต็มหน้าจอบน iPhone และ iPod touch
  • ป้ายโฆษณาสำหรับแอปฯ อัจฉริยะ
  • การปรับปรุงประสิทธิภาพของ JavaScript

การปรับปรุง App Store และ iTunes Store
  • การออกแบบร้านล่าสุด
  • ประวัติตัวอย่างของ iTunes
  • ซื้อภาคของฉันยกชุด
  • ซื้ออัลบั้มของฉันยกชุด

การปรับปรุง Game Center
  • ท้าเพื่อนๆ ให้สู้กับคะแนนสูงสุด และท้าแข่งผลสำเร็จ
  • โพสต์คะแนนสูงสุดและผลสำเร็จไปยัง Facebook และ Twitter
  • คำแนะนำของเพื่อนตามเพื่อนๆ ของคุณจาก Facebook

การปรับปรุงผู้พิการ
  • การเข้าถึงการใช้เพื่อจำกัดอุปกรณ์ให้ทำงานกับแอปฯ หนึ่งเดียว หรือจำกัดการป้อนแบบสัมผัสกับพื้นที่หน้าจอบริเวณใดบริเวณหนึ่ง
  • การผสานงาน VoiceOver กับแผนที่, AssistiveTouch และซูม
  • การรองรับอุปกรณ์ช่วยรับฟังที่ใช้ได้กับ iPhone สำหรับ iPhone 5 และ iPhone 4S

การปรับปรุงการควบคุมส่วนบุคคลสำหรับรายชื่อ ปฏิทิน เตือนความจำ รูปภาพ และข้อมูลแบ่งปันผ่านทางบลูทูธ

เตือนความจำเรียงลำดับใหม่ได้ในแอปฯ เตือนความจำ


กำหนดการสั่นเองสำหรับการเตือนของ iPhone


แอปฯ นาฬิกา สำหรับ iPad


การปลุกด้วยเพลงของนาฬิกา


ค้นหาในช่องของรายชื่อได้ทุกช่อง


โหมดภาพยนตร์อัตโนมัติสำหรับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นของภาพ


คำจำกัดความของคำที่เลือกอยู่สำหรับภาษาจีน ฝรั่งเศส เยอรมัน และสเปน


รูปแบบแป้นพิมพ์ใหม่สำหรับภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ตุรกี คาตาลัน อาหรับ และไอซ์แลนด์


ปุ่มแป้นพิมพ์ลัดแบ่งปันกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทาง iCloud


การรองรับผังบลูทูธ


พร็อกซี่เครือข่ายส่วนกลางสำหรับ HTTP


คุณสมบัติสำหรับประเทศจีน

การค้นหาเว็บด้วย Baidu
การผสานงานกับ Sina Weibo
แบ่งปันวิดีโอไปยัง Tudou
แบ่งปันวิดีโอไปยัง Youku
การปรับปรุงการป้อนข้อความสำหรับลายมือเขียนและพินยิน

การแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ


คุณสมบัติบางอย่างอาจจะไม่มีในทุกประเทศหรือทุกพื้นที่ กรุณาไปยังเว็บไซต์นี้สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.apple.com/ios/feature-availability
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาความปลอดภัยของอัปเดตนี้ กรุณาไปยังเว็บไซต์นี้:http://support.apple.com/kb/HT1222
Cr : http://www.pdamobiz.com

สรุปการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยใน iOS6 ที่เราจะได้ประโยชน์ คือ
  • คีย์บอร์ดภาษาไทยแบบ 4 แถว ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนพิมพ์ในคอมพิวเตอร์มากขึ้น
  • App Store อัพเดดใหม่
  • การตั้งห้ามรบกวน (Do not Disturb)
  • แผนที่ใหม่ (ซึ่งแย่ลงมากในประเทศไทย)
  • Tap to Post เพื่อใช้ในการโพส Facebook จากหน้า Notification bar
  • Facetime ผ่านสัญญาณ 3G

Google Map และ Youtube หายไปจาก iOS6 ทำอย่างไรดี

วิธีแก้ไข Youtube หายทำได้หลายวิธีเช่น
  • โหลด app Youtube ใหม่ซึ่งเป็นของ Google เอง ซึ่งขณะนี้จะมีแต่เวอร์ชั่น iPhone เท่านั้น iPad ยังต้องรอกันก่อน
  • ใช้ SPEEDbit HD – YouTube Video Accelerator ในการเข้าแทน ซึ่ง apps ตัวนี้สามารถใช้ดู Video แบบ HD ได้ทั้ง Iphone และ Ipad
  • ใช้ SpeedTube แทน
  • ใช้ FoxTube แทน ตัวนี้ใช้ดู HD ได้ โหลดเก็บไว้ดูก็ได้
  • หรือบางท่านอาจจะไม่อยากจะลง app เพิ่ม สามารถเข้า Youtube ผ่าน Safari แล้วเลือก Add to home screen ได้เลย

วิธีแก้ไข Google Map

  • สามารถเข้า Google Map ผ่าน Safari แล้วเลือก Add to home screen ได้เลย
  • ใช้ App NOSTRA map ซึ่งเป็น app ฟรีบน App Store

 INFO:  http://www.weliketochoice.com

เด็กที่เกิดกับพ่อแม่ที่ บริโภคข้าวสาลี GM อาจจะเสียชีวิตก่อนอายุ 5 ขวบ


21 กันยายน 2012 - Australia's Commonwealth Scientific and Industrial Research Organization (CSIRO)  ได้มีการพัฒนา genetically-modified (GM) (การตัดต่อพันธุ์กรรม) ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นข้าวสาลีที่มีการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนและ มีกลไกลระงับเอนไซม์ (enzyme-suppressing mechanism) มีนักวิทยาศาสตร์บางท่านบอกว่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตับของมนุษย์ที่ร้ายแรงอย่างมาก รายงานล่าสุดรวบรวมโดยผู้เชียวชาญที่ได้รับรางวัลด้านพันธุศาสตร์ ได้กล่าวว่า "เด็กที่เกิดกับพ่อแม่ที่กินข้าวสาลี GM อาจเสียชีวิตก่อนอายุ 5 ขวบ"

การเปิดเผยนี้สร้างความตกตะลึงในเวลาเดียวกับที่ CSIRO ได้ประกาศว่า the Gene Technology Regulator (OGTR)  ที่มีสำนักงานในออสเตรเลีย ได้อนุมัติสำหรับการทดลองทุ่งข้าวสาสีและข้าวบาร์เลย์ ที่ได้รับการแก้ไขแต่ยังไม่มีการทดลองในเรื่องนี้

เนื่องจากเทคโนโลยีนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการยับยั้นเอนไซม์ (enzyme) ในข้าวสาสี ที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับไกลโคเจน (glycogen), สาร polysaccharide ที่ผลิตในตับ การบริโภคข้าวสาลี หรือข้าวบาร์เลย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การล้มเหลวของตับ และเสียชีวิตในที่สุด

"If this (technology) silences the same sort of gene in us -- as it silences in the wheat -- then, well, เด็กที่จะเกิดมาด้วยเอนไซม์ที่ไม่ทำงานนี้มักจะตายเมื่ออายุประมาณ 5 ขวบ ศาสตราจารย์จูดี้ (Professor Judy Carman, a biochemist and director of the IHER, Flinders University) ได้กล่าวไว้ว่า "And adults with this problem, just kind of get more and more sick, and more and more tired, until they get very, very ill indeed."

หน่วยงานที่กำกับดูแลของออสเตรเลียอนุมัติการทดลองภาคสนามของข้าวสาลี GM ที่ร้ายแรงนี้ โดยไม่มีหลักฐานยืนยันความปลอดภัยใดๆ

Scott Kinnear, Director of the Safe Food Foundation. ได้กล่าวว่า "ถ้า CSIRO ไม่มีการตอบสนองโดยทันทีและเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ พวกเราจะเรียกร้องให้ยุติการทดลองภาคสนามทั้งหมด ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการหยุดแผนสำหรับการทดลองให้อาหารของมนุษย์ทั้งหมด และตกลงที่จะดำเนินการแนะนำการสอบทีมีความปลอบภัย"

วิธีแก้ปัญหา iOS 6 เปิด Wi-Fi เชื่อมต่อ internet ไม่ได้


-เข้าใน Settings เพื่อตั้งค่า Wi-Fi
-กดปุ่ม Renew lease
-ตั้งค่า Proxy ใน Wi-Fi เป็น Auto


INFO: discussions.apple.com

การติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวของ จอร์จ อดัมสกี้ : George Adamski

เรื่องราวของจอร์จ อดัมสกี้
โดย Terran
23 สิงหาคม 2001


ในโลกนี้ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีผู้คนมากมายหลายชนชาติ ที่อ้างว่าตนเองติดต่อกับสี่งมีชีวิตต่างมิติหรือสี่งมีชีวิตนอกโลกได้ อดัมสกี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เรามาดูเรื่องราวของเค้ากันดีกว่าครับ

เมื่อวันที่ 20 เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1952 ที่ Desert center รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา “จอร์จ อดัมสกี้” (George Adamski) ได้รับการติดต่อทาง โทรจิต จากผู้ที่อ้างว่าเป็นมนุษย์นอกโลก ให้มาที่นี่เพื่อพบกับมนุษย์ต่างดาว โดยมีพยานอีก 6 คน ที่ตามอดัมสกี้มาด้วย พยานได้เฝ้าดูอยู่ห่างๆราวๆ 800 เมตร

ในวันนั้นมีจานบินขนาดเล็กลงมาจอดพร้อมด้วยมนุษย์ต่างดาว แต่งกายเหมือนชุดสกี ผมยาวปะบ่า สูงราว 150-170 เซนติเมตร หน้าตาเหมือนชาวโลกอายุประมาณ 28 ปีเห็นจะได้ มีใบหน้าสวยงาม ราวกับผู้หญิง ที่สำคัญยังแสดงรอยยี้มถึงความเป็นมิตรต่ออดัมสกี้ด้วย บทความสนทนาของมนุษย์ต่างดาวคนนี้กับอดัมสกี้ได้ติดต่อกันทางโทรจิต (Telepathy) โดยอดัมสกี้ได้บันทึกเอาไว้เกือบทุกครั้ง

“คุณมาจากดาวดวงไหนเหรอครับ?”

“ดาวศุกร์ครับ”

“มาทำอะไรที่โลกนี้?”

“ผมมาสำรวจเกี่ยวกับระเบิดปรมาณูของดาวนี้ครับ”

“มันอันตรายมากเหรอ?”

“เป็นอันตรายอย่างยี่งครับ”

“แล้วระเบิดปรมาณูที่ระเบิดที่ ฮิโรชิม่ากับนากาซากิ ในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลออกไปนอกโลกเลยเหรอ?”

“ใช่แล้วครับ”

“คุณขับจานบินลำเล็กนี้มาถึงโลกเลยเหรอ?”

“เปล่าครับ ผมมาด้วยยานอวกาศลำใหญ่ที่เรียกว่ายานแม่ครับ”

“ยานอวกาศพวกคุณใช้พลังอะไรขับเคลื่อน?”

“ขับเคลื่อนด้วยกฏดึงดูดและต่อต้านการดึงดูดครับ”

“เหมือนแม่เหล็ก?”

“ใช่แล้วครับ”

“คุณเชื่อในพระเจ้าไหม?”

“ครับ แต่ต่างจากพวกคุณที่คิดว่าเขามีชีวิตอยู่ได้ด้วยเจตนารมณ์ของปัจเจก ในขณะที่พวกเรามีชีวิตอยู่ตามเจตนารมณ์ของพระผู้สร้างครับ”

“จานบินจะมาเยือนโลกอีกไหม?”

“มาครับ”

“มนุษย์ต่างดาวที่มาบนโลกมาจากไหนบ้าง?”

“ก็จะมีมาจากทั้งดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาลเรา จากระบบสุริยะจักรวาลอื่น และจากกาแลคซี่อื่นๆด้วยครับ”

“แล้วเรื่องจานบินที่มาตกในรอสเวลล์เป็นเรื่องจริงรึเปล่า?”

“จริงครับ จานบินลำนั้นเกิดเครื่องยนต์ขัดข้องครับ”

“ทำไมพวกคุณไม่เปิดเผยตัวแบบเอาจานบินร่อนลงในที่ที่ผู้คนอยู่เยอะๆล่ะ ”

“ถ้าผมเปิดเผยมากกว่านี้ ต้องถูกมนุษย์โลกทำร้ายอย่างแน่ แต่คิดว่าเราอาจจะมาปรากฏตัวอย่างเปิดเผยในอนาคตครับ”

“ผมขอถ่ายรูปคุณได้ไหม?”

“ไม่ได้ครับ”

“ในจักรวาลนี้ มีสี่งมีชีวิตอาศัยอยู่ตามดวงดาวต่างๆเยอะไหมครับ?”

“มีมากมายครับ อย่างดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาลเรา มีสี่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทั้งนั้นครับ”

“มนุษย์ในดวงดาวอื่นๆ รูปร่างเหมือนมนุษย์โลกเหรอครับ?”

“ใช่แล้วครับ”

“แล้วพวกเขาต้องตายเหมือนมนุษย์โลกเช่นกัน?”

“ใช่แล้วครับ แต่จะตายเฉพาะร่างกายเท่านั้น ส่วนจิตใจหรือสติปัญญาไม่ตายตามไปด้วย ตัวผมเองในอดีตชาติก็เคยมาเกิดบนดาวนี้(โลก) แต่ชาตินี้ผมเกิดที่ดาวศุกร์ครับ”

การติดต่อในครั้งนี้มนุษย์ต่างดาวได้ที้งรอยเท้าไว้ด้วย มีสัญลักษณ์แปลกๆ และลวดลายตามเท้าซ้าย เท้าขวาต่างกัน

สามเดือนต่อมา คือในวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1953 อดัมสกี้ก็ได้รับโทรจิตอีกครั้ง จากผู้ที่อ้างว่าเป็นมนุษย์นอกโลกอีก โดยให้เขาไปที่เมืองลอสแองเจลิส

อดัมสกี้ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งนึง คืนนั้น ราวๆ 4 ทุ่มกว่าๆ มีชายสองคนเข้ามาหาเข้า คนนึงสูงราวๆ140 ซม. อายุราวๆ 30 ปี อีกคนเตี้ยกว่าคนแรกนิดหน่อย ราวๆ 175 ซม. หน้าตาเยาว์วัย ชายคนสูงแนะนำว่าตนเองมาจากดาวเสาร์ ส่วนอีกคนมาจากดาวอังคาร เขาพูดออกมาทางปากด้วยภาษาอังกฤษที่ชัดเจน อดัมสกี้บอกว่าถ้าดูภายนอกไม่อาจรู้เลยว่าสองคนนี้เป็นมนุษย์ต่างดาว ต่อมา..มนุษย์ต่างดาวสองคนนี้พาอดัมสกี้นั่งรถไปยังแถบทะเลทรายแห่งนึง ปรากฏว่าได้พบกับมนุษย์ต่างดาวที่เคยเจอครั้งแรก เมื่อสามเดือนก่อน จากนั้นมนุษย์ต่างดาวทั้งสามคนพาอดัมสกี้ที่กำลังงงขึ้นยานบิน และเข้าไปจานบินลำใหญ่ที่เค้าเรียกว่ายานแม่ ซึ่งเป็นยานที่ผลิตในดาวศุกร์ รูปร่างคล้ายมวนซิการ์ อดัมสกี้บอกว่าภายในยานมีเครื่องมือแปลกๆมากมายที่ต่างจากบนโลก แล้วอดัมสกี้ก็ได้พบกับ”ผู้นำที่ยี่งใหญ่”หรือมาสเตอร์ของยานลำนี้ ซึ่งมีอายุเกือบพันปี (ถ้านับตามเวลาดาวโลก) มาสเตอร์ได้บอกอดัมสกี้ว่า

“เพื่อนรัก เราพาเพื่อนมาที่นี่เพื่อให้เพื่อนได้ชมภายในยานบินของเรา ซึ่งแม้จะไม่ได้เห็นอะไรมากแต่ก็พอไปถ่ายทอดความรู้ให้เพื่อนร่วมโลกของเพื่อนได้ เมื่อมองออกไปจากยาน เพื่อนคงจะเห็นแล้วสินะว่านอกบรรยากาศดาวโลกเป็นเช่นไร ในอวกาศเป็นอย่างไร มันเคลื่อนไหวอย่างไม่มีวันหยุดอย่างไร และมันเปี่ยมไปด้วยธาตุทิพย์ ซึ่งให้กำเนิดสรรพสี่งอย่างไรบ้าง ที่นี่ไม่มีจุดเรี่มต้นและจุดสี้นสุด
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ มีสี่งที่พวกเพื่อน(ชาวโลก) เรียกว่าดาวเคราะห์ดำรงอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ดวงดาวเหล่านี้แม้มีรูปร่างแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะลักษณะใกล้เคียงกับโลกหรือดวงดาวของพวกเรา มิหนำซ้ำดวงดาวเกือบทั้งหมดนี้ยังมีมนุษย์เช่นเราๆอาศัยอยู่ด้วย แน่นอนว่าดวงดาวบางดวงพัฒนาก้าวหน้าไปมากจนมนุษย์อย่างเราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ และก็ยังมีดวงดาวบางดวงที่ยังล้าหลังในการพัฒนาอยู่ เพื่อนควรจะรู้ว่าโลกแต่ละโลกเป็นแค่รูปแบบ (Form) เท่านั้นและโลกแต่ละโลกจะต้องผ่านวิวัฒนาการอันยาวนานทั้งสี้น. …
มนุษย์ในดาวดวงอื่นในระบบสุริยะจักรวาลอันนี้ ได้ผ่านวิวัฒนาการในทางสติปัญญามาจนถึงระดับสูงอย่างเกินกว่าที่ชาวโลกจะคาดคิดได้ วิวัฒนาการอันนี้เกิดขึ้นมาได้ เพราะพวกเราดำเนินชีวิตตามกฏของธรรมชาติอย่างเคร่งครัดนั่นเอง ในโลกของพวกเรานั้นเป็นที่ทราบกันดีในหมู่พวกเราว่า มนุษย์อย่างพวกเราจะสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้ก็ต่อเมื่อปฏิบัติตามกฏแห่งปัญญาอันยี่งใหญ่ที่ปกครองเวลาและอวกาศทั้งปวงนี้อยู่แล้วเท่านั้น….
อันที่จริงพวกเราสามารถและเต็มใจที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีการท่องอวกาศอย่างปลอดภัยให้แก่ชาวโลก ถ้าหากชาวโลกสามารถเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอย่างรักในสันติภาพ รักในความเป็นพี่เป็นน้องกับสี่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกนี้และดวงดาวอื่นๆได้เสียก่อน เหตุที่เรายังไม่กล้าถ่ายทอดเทคโนโลยีอันนี้ให้แก่ชาวโลก เพราะพวกเราเกรงว่าถ้าชาวโลกได้เทคโนโลยีอันนี้ไปแล้วก็จะสร้างยานอวกาศติดอาวุธไปรุกรานพิชิตดาวดวงอื่นนั่นเอง…
เพื่อนรัก จุดประสงค์หลักที่พวกเราบินมาเยือนโลกบ่อยในช่วงนี้ ก็เพื่อที่จะมาเตือนชาวโลกให้ตระหนักถึงภัยแห่งวิกฤติครั้งใหญ่ที่กำลังคุกคามชาวโลกอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเรารู้ในหลายๆสี่งมากกว่าชาวโลกคนใดที่จะรู้ได้ พวกเราจึงคิดว่าเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องมาเตือนชาวโลกเท่าที่ความสามารถของพวกเราจะทำได้ พวกเราพยายามใช้เพื่อนและคนอื่นๆ เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความรู้ที่พวกเราต้องการจะเผยแพร่ไปให้แก่ชาวโลก โดยที่ชาวโลกมีสิทธิอย่างเต็มที่ที่จะปิดหูปิดตาตนเอง เพื่อกระทำอัตวินิบาตกรรมรวมหมู่ หรือจะรับคำเตือนจากพวกเราไปปรับปรุงแก้ไขก่อนที่จะสายเกินแก้ นั่นขึ้นอยู่กับการเลือกของชาวโลกเอง พวกเราไม่อาจไปออกคำสั่งต่อชาวโลกได้

เพื่อนคงจำได้ใช่มั้ยว่า ตอนที่เพื่อนได้พบกับกับพวกของเราครั้งแรกนั้น เขาได้บอกกับเพื่อนว่าการระเบิดของระเบิดปรมาณูบนพื้นโลกเป็นเป้าหลักแห่งความสนใจในการมาเยือนครั้งนี้ของพวกเรา นี่แหละคือตัวปัญหาที่พวกเราอยากจะเตือนชาวโลก แม้ว่าเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูในครั้งนั้นจะยังไม่ทำให้รังสีปรมาณูกระจายออกไปถึงบรรยากาศนอกโลกก็จริง แต่ภัยจากรังสีปรมาณูเหล่านี้ก็กำลังคุกคามชีวิตของชาวโลกด้วยกันเองน่ากลัวยี่งขึ้นทุกที ตอนนี้รังสีปรมาณูยังแพร่กระจายออกไปยังไม่ถึงนอกโลก เพราะมันเบากว่าอากาศแต่หนักกว่าอวกาศ แต่เมื่อใดก็ตามที่ชาวโลกก่อสงครามครั้งใหญ่ขึ้นมาอีกและมีการใช้พลังงานปรมาณูนี้เป็นอาวุธในการทำสงคราม เมื่อนั้นประชากรส่วนใหญ่ของชาวโลกก็จะล้มตาย แผ่นดินเพาะปลูกไม่ได้ น้ำกลายเป็นมลพิษ สี่งมีชีวิตทั้งหลายไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ได้บนผิวโลกเป็นเวลานานปี ไม่ใช่แค่นั้นนะ ยังมีความเป็นไปได้ด้วยว่า ผิวโลกอาจจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จนอาจเกิดความเสียสมดุลขึ้นกับระบบทางช้างเผือก
เพื่อนอาจจะสงสัยว่าถ้าหากเกิดสงครามโลกครั้งที่สามขึ้นมาจริงๆแล้ว พวกเราจะถือว่าเป็นความชอบธรรมหรือไม่ ที่จะเข้ามาหยุดยั้งสงครามของชาวโลก เราขอบอกให้เพื่อนได้รับรู้ จริงๆ แล้ว พวกเรามีพลังงานที่เหนือกว่าและทรงพลังกว่าระเบิดปรมาณูของชาวโลกมากมายนัก ถ้าหากเราต้องการจริงๆ การที่พวกเราจะทำให้พลังงานของชาวโลกหมดพลังลงไปนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่พวกเราถือคติว่าพวกเราจะไม่ยินยอมเข่นฆ่าพี่น้องร่วมจักรวาลของเรา แม้ว่าการกระทำอันนั้นจะเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนเองก็ตาม พวกเราเลือกที่จะพยายามยับยั้งสงครามด้วยการเตือนให้ชาวโลกตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของการกระทำของตน และพวกเราจะพยายามต่อไป เนื่องจากเรารู้ดีว่ามนุษย์โลกก่อสงครามก็เพราะความไม่รู้หรืออวิชชานั่นเอง…
สำหรับโลกแห่งชีวิตทางจักรวาลของ”พระผู้สร้าง”แล้วชาวโลกยังเป็นเพียงแค่เด็กทารกในสายตาของพระองค์เท่านั้น ชาวโลกและโลกนี้จึงมิใช่สี่งเลวร้ายโดยตัวของมันเอง เพียงแต่เพราะขาดปัญญา ขาดความเข้าใจเท่านั้นเอง ขณะที่ในโลกของเรานั้นพวกเราต่างปฏิบัติตามกฏของพระผู้สร้างอย่างเคร่งครัด ส่วนโลกมนุษย์พวกท่านกลับเอาแต่พูดถึงกฏเหล่านี้เท่านั้นเอง….

ถ้าชาวโลกสามารถรู้อนาคตได้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและรุนแรงเพียงใดกับโลกใบนี้ พวกเขาคงจะต้องตระหนกตกใจเป็นแน่ ถ้าเพื่อนถ่ายทอดข่าวสารของพวกเราออกไปทั่วโลก เราเชื่อว่าย่อมมีคนที่รับฟังคำพูดของเพื่อน เพราะคนส่วนใหญ่ก็คงไม่อยากปวดร้าวรันทดจากพิษภัยของสงครามเช่นกัน เราเชื่อว่าชาวโลกก็ต้องการและแสวงหาความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตใหม่ที่จะมาช่วยพวกเขาได้…”

สองเดือนต่อมา ในวันที่ 21 เดือนเมษายน ปี ค.ศ.1953 อดัมสกี้ได้รับโทรจิตจากผู้ที่อ้างว่ามาจากนอกโลกอีกครั้ง ทำให้เขาต้องเดินทางไปเมืองลอสแองเจลิสอีกครั้ง คราวนี้เขาได้พบกับมนุษย์ดาวอังคารคนเดียวเท่านั้น ในระหว่างที่รับประทานอาหารด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งนึง มนุษย์จากดาวอังคารพูดถึงเรื่องอารมณ์ของมนุษย์ว่า

“คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้จักอารมณ์ความรู้สึกในเชิงทำลายที่มีอยู่ในใจของตัวเองอย่างแท้จริงเท่าไหรนัก เพราะแม้แต่คนที่ภูมิใจกับความเป็นคนเยือกเย็นของตัวเอง บางครั้งก็สามารถที่จะระเบิดอารมณ์ของตัวเองออกมาได้ง่ายๆ ด้วยสาเหตุเล็กๆที่บังเอิญไปสะกิดถูกที่เท่านั้นเองและร้ายยี่งกว่านั้นคือมนุษ์กล้ารุกรานล่วงเกินคนอื่นได้ โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตนเอง ในกรณีที่มีการต่อสู้หรือทำสงครามกัน สภาพเช่นนี้มิใช่สี่งใดอื่นหรอก นอกจากเป็นสภาพที่เสียสมดุลของอารมณ์ที่มีความรู้สึกรุนแรงอย่างขาดความยั้งคิด แต่ขอเพียงคนเราเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเรื่องนี้สักครั้งนึงได้แล้ว มนุษย์ย่อมสามารถควบคุมหรือเลิกความเคยชินที่ไม่ดีเช่นนี้ได้
ชาวโลกในปัจจุบันเป็นทาสของนิสัย เป็นทาสของความเคยชินของตัวเอง พวกเขาจึงลืมความเป็นเทพเจ้าหรือความเป็นพุทธะที่ดำรงอยู่ในตัวเองเสียจนหมดสี้น จิตวิญญาณที่แท้จริงของตัวเขาเองกลับถูกปิดกั้นไม่ให้เผยตัวออกมา แต่แม้กระนั้นพวกเขาทุกคนต่างก็มีความปรารถนาแฝงอยู่ลึกๆ ที่จะเผยความเป็นพุทธะของตัวเองออกมาและความปรารถนาอันนี้แหละที่จะมาสั่นคลอนขั้นรากเหง้าเกี่ยวกับความเป็นตัวตนของพวกเขาที่ถูกจองจำด้วยความเคยชิน มนุษย์โลกจึงจำเป็นที่จะต้องพยายามเงี่ยหูฟังเสียงแห่งปัญญาที่เปล่งออกมาจากภายในของตัวเขาเองและตราบใดที่มนุษย์ไม่คิดจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเอง ตราบนั้นก็ไม่มีใครที่จะช่วยพวกเขาได้ มนุษย์โลกส่วนน้อยนิดที่แสวงหากฏแห่งจักรวาลอย่างจริงจัง จึงจำเป็นที่จะต้องมาชี้ทางให้แก่เพื่อนร่วมโลกของตน”

หลังจากนั้น มนุษย์ดาวอังคารก็พาอดัมสกี้ขึ้นจานบินและบินไปยังยานอวกาศที่เป็นยานแม่จากดาวเสาร์ ยานอวกาศที่เป็นยานแม่บินไปใกล้ดวงจันทร์และฉายภาพให้อดัมสกี้เห็นสภาพบนดวงจันทร์ ซึ่งมีทั้งอากาศและเฆม ( ข้อมูลตรงจุดนี้เป็นส่วนที่ผมและนักค้นคว้าหลายคนไม่ยอมรับ แต่จุดนี้มีส่วนกลับไปสนับสนุนงานค้นคว้าของ แดเนียล โรส ว่าองการณ์นาซ่าได้เปิดเผยข้อมูลมัวซั่ว และปิดบังข้อมูลที่เท็จจริงเกี่ยวกับดวงจันทร์ รวมทั้งการถ่ายทำภาพยนต์ปลอมที่ นีล อาร์ม สตรองค์ กับเอ็ดวิน อัลดริน และนักบินอวกาศอีกคน สามารถลงไปเหยียบดวงจันทร์ได้ ส่วนตัวผมก็ยังวิเคราะห์แจกแจงไม่ได้เท่าไหรนัก แต่ขอเก็บข้อมูลใส่แฟ้มไว้ละกัน ผมเชื่อว่าเวลาจะพิสูจน์เรื่องต่างๆได้ ) เสร็จจากการดูภาพดวงจันทร์บนจอ มนุษย์ดาวอังคารก็พาอดัมสกี้ไปพบกับมาสเตอร์ประจำยานอวกาศลำนี้ ซึ่งถ้าดูภายนอกจะเป็นบุรุษอายุราวๆ สี่สิบปี รูปร่างทะมัดทะแมง มาสเตอร์ได้บรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาลให้อดัมสกี้ฟัง มีใจความหลักๆดังนี้

1.มนุษย์ ไม่ว่าจะเกิด ณ ที่แห่งใดในจักรวาลนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้องกันทั้งสี้น เชื้อชาติ สีผิว เป็นเพียงสี่งบังเอิญ สรรพชีวิตในมหาสากลจักรวาลล้วนแล้วแต่อยู่ร่วมกันในทะเลที่เรียกกันว่า”พลังที่เป็นหนึ่ง” ( one power ) และล้วนดำรงอยู่ได้ด้วย”ชีวิตที่เป็นหนึ่ง” ( one life ) สี่งที่โลกของเธอเรียกและตั้งชื่อต่างๆเป็นจำนวนมาก ตามที่สายตาเธอนั้น ไม่ว่าชื่อพืช ชื่อสัตว์หรือชื่อคน ความจริงแล้วเป็นแค่การรับรู้ในเชิงผัสสะของมนุษย์เท่านั้น เพราะในท่ามกลางแห่งจักรวาลอันเป็นทะเลชีวิตที่ไร้ขอบเขต ชื่อต่างๆ ที่พวกเธอเรียกขานนี้ ช่างไร้ความหมายโดยสี้นเชิง แม้แต่ตัว “ปัญญาที่ไร้ขอบเขต” เอง ก็ใช่ว่าจะตั้งชื่อได้ เพราะมันมีความสมบูรณ์อยู่ในตัวแล้วและรูปแบบของสรรพสี่งชีวิตทั้งหลาย ต่างก็มีชีวิตและจะมีชีวิตอยู่ตลอดไปใน”ความสมบูรณ์”ของจักรวาลอันนี้ทั้งสี้น

2.ที่กล่าวกันว่า’มนุษย์’เป็นสัตว์ที่มีปัญญาที่แท้จริง แต่เพียงผู้เดียวบนโลกนี้เมื่อเทียบกับรูปแบบของสรรพชีวิตอื่นๆ เป็นคำกล่าวที่ผิด ไม่ว่าในโลกนี้หรือ ณ ที่ใดๆในจักรวาลนี้ ไม่มีสรรพสี่งอันไหนเลยที่จะไม่เป็นตัวแทนของ “ปัญญาแห่งจักรวาล”ในระดับใดระดับนึง ทั้งนี้ เพราะสรรพสี่งทั้งปวงเป็นการสำแดงออกของ”พระผู้สร้างอันศักด์สิทธ์”และเป็นการเผยโฉมของความคิดแห่งปัญญาของพระผู้สร้าง เธอในฐานะที่เป็นคนจึงมิได้สูงส่งไปกว่านั้นและมิได้ต่ำต่อยไปกว่านั้น พลังชีวิตที่ค้ำจุนสรรพสี่งและปัญญาที่สำแดงตัวเองออกมาโดยผ่านสรรพสี่งคือการเผยโฉมอันศักด์สิทธ์ของจักรวาล ชาวโลกส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจความจริงข้อนี้จึงชอบกล่าวร้ายต่อสี่งต่างๆ ที่อยู่นอกอัตตาของตนเอง สรรพสี่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับใช้เป้าหมายหนึ่งๆของตน หาได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพิพากษาสี่งอื่นไม่ สรรพสี่งทั้งปวงล้วนเป็นผู้รับใช้สี่งสูงสุด ไม่มีใครหรอกที่สามารถรับรู้ทั้งหมดได้ แต่ถ้าคนผู้นั้นยินดีและเต็มใจที่จะรับใช้แล้ว ความเข้าใจของเขาที่มีต่อต้นตอแห่งสายธารของปัญญาก็จะพอกพูนเพี่มขึ้นเอง ปัญญาคือสี่งเดียวกับพลังชีวิตที่ทำให้สรรพสี่งดำรงอยู่ได้

3.สรรพสี่งและปรากฏการณ์ทั้งหลายในมหาสากลจักรวาลนี้ เปรียบเหมือนดอกไม้ที่สวยงามในสวนดอกไม้อันโอฬารที่ดอกไม้แต่ละประเภทแต่ละสีต่างผลิดอกเบ่งบาน ประสานกลมกลืนกัน ดอกไม้ทุกดอกต่างรู้สึกถึงตัวเองได้โดยผ่านการตระหนักถึงดอกไม้ดอกอื่น ดอกไม้ต้นเล็กเงยหน้าแหงนดูดอกไม้ต้นใหญ่ ฝ่ายดอกไม้ต้นใหญ่ก็ก้มลงดูดอกไม้ต้นเล็ก สีแต่ละสีที่หลากหลายของเหล่าดอกไม้คือความปิติยินดีแต่ละอันสำหรับสวนทั้งหมด สรรพสี่งได้รับเกียรติในการรับใช้สี่งอื่น ในขณะเดียวกันแต่ละสี่งก็ได้รับการบริการจากสี่งอื่นทั้งหมดเช่นกัน มนุษยชาติน่าจะได้เรียนรู้บทเรียนอันนี้ตั้งแต่เรี่มแรกของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ แต่มนุษย์กลับล้มเหลวในการเรียนรู้บทเรียนอันนี้ไปอย่างน่าเสียดาย เพราะมนุษย์ไม่รู้ ขาดความเข้าใจ มนุษย์จึงทำลายความปรองดองของสรรพสี่งในโลกนี้ มนุษย์ไม่รู้จักสันติภาพที่แท้จริงและไม่รู้จักความงดงามที่แท้จริง ต่อให้มนุษย์
ประสบความสำเร็จในทางวัตถุขนาดไหน มนุษย์ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความมืดไปได้ มนุษย์กลายเป็นตัวแทนของความกลัว และความกลัวนี่เองที่กักขังจองจำมนุษย์ไว้ตลอดชีวิต มนุษย์จึงปิดกั้นตัวเองจากแสงสว่างที่จะนำพาตัวเองไปสู่วิถีแห่ง”ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวอันนิรันดร์”

4.เพื่อนรัก เธอจะต้องไม่สี้นหวังหรือท้อแท้เมื่อเผชิญกับการถูกหัวเราะเยาะเมื่อไม่เชื่อถือ เธอจงนำสี่งที่ได้เรียนรู้ไปถ่ายทอดให้พี่น้องร่วมโลกของเธอได้รับรู้ เพราะคนใจกว้างพร้อมจะรับฟังความจริงก็มีอยู่อีกมาก
ช่วงต้นเดือนกันยายน ปีค.ศ.1953 อดัมสกี้ได้รับโทรจิตจากผู้ที่อ้างว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวอีกครั้ง ให้ไปพบกันที่เดิม คือ เมืองลอสแองเจลิส คราวนี้เค้าได้พบกับมนุษย์ดาวอังคารและมนุษย์ดาวเสาร์ อดัมสกี้ได้ซักถามข้อสงสัยของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ UFO ก่อนหน้านั้น ซึ่งเขาก็ได้รับคำตอบและคำชี้แจงจนกระจ่าง นอกจากนี้มนุษย์ต่างดาวยังได้เล่าประวัติของโลกใบนี้นับตั้งแต่อดีตกาลอันใกล้โพ้นด้วย

“พวกคุณได้แลเห็นความล้าหลังในวิวัฒนาการของพวกมนุษย์มานับเป็นหมื่นๆปีแล้ว พวกคุณไม่รู้สึกผิดหวังหรือครับที่ทั้งๆพยายามช่วยเหลือพวกมนุษย์ให้เห็นทางสว่างกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วก็ตาม พวกเขาส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ในความมืดไม่รู้จักเติบโตทางวิญญาณเสียที”อดัมสกี้ถาม

มนุษย์ดาวอังคารได้ตอบกลับมาว่า ” พวกเราไม่รู้จักสี่งที่พวกคุณเรียกว่าความผิดหวังหรอกครับ คำๆนี้ไม่มีอยู่ในภาษาของเราตั้งแต่อดีตกาลอันยาวไกลมาแล้วที่พวกเราได้เรียนรู้ถึงพลังแห่งความหวัง พลังแห่งศรัทธาและพลังที่จะไม่ท้อแท้ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเราก็ตาม เป้าหมายของชีวิตที่สูญเสียไปเมื่อวันวานเป็นสี่งที่เราจะสามารถเอาคืนมาได้ในวันพรุ่งนี้ พวกเราไม่คิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ประเสริฐเลิศสุดแล้วหรอกครับ พวกเราตระหนักดีว่าตัวเองจะต้องวิวัฒนารุดหน้าต่อไปจนชั่วนิรันดร์ คุณคงทราบแล้วว่าในโลกของพวกเราไม่มีโรคภัย ไข้เจ็บ ความยากจนและอาชญากรรม พวกเราถือว่ามนุษย์คือการสำแดงออกขั้นสูงสุดขององค์พระผู้สร้าง ถ้าหากพวกเราคิดร้ายต่อคนอื่นด้วยจิตใจที่เป็นอกุศลเมื่อใด พวกเราก็จะเบี่ยงเบนจากความสมบูรณ์แล้วห่างไกลจากเป้าหมายที่แท้จริงของพระผู้สร้างทันที นี่คือสี่งที่พวกเราตระหนักเป็นอย่างดีครับ”

“ผมอยากจะถามพวกคุณเกี่ยวกับปัญหาการตายแล้วเกิดใหม่จะได้ไหมครับ คือผมอยากจะรู้ว่าความทรงจำตลอดชั่วชีวิตนี้ของเราสามารถนำติดตัวไปยังชีวิตหน้าได้ไหมครับ?”

มนุษย์ดาวเสาร์เป็นผู้ตอบกลับมาว่า ”เป็นไปได้ครับ โดยขึ้นอยู่กับระดับการพัฒนาจิตสำนึกของบุคคลผู้นั้นครับ มนุษย์ที่เวียนว่ายตายเกิดจนชั่วนิรันดร์ย่อมไม่ลืมสี่งต่างๆที่เขาประสบมาได้หรอกครับ เพียงแต่ความทรงจำเกี่ยวกับสี่งต่างๆที่ร่ำเรียนมาในชาติก่อนมักไม่ค่อยปรากฏออกมาในชาตินี้เกินกว่าความรู้ระดับสัญชาติญาณเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมนุษย์โลกส่วนใหญ่ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของจิตสำนึกของตัวเอง อย่างเด็กที่มนุษย์โลกเรียกว่า อัจฉริยะนั้น ความจริงแล้วก็เป็นคุณสมบัติแห่งความทรงจำในอดีตชาติที่ปรากฏออกมาเด่นชัดกว่าคนธรรมดาเท่านั้นเองครับ
โลกใบนี้เคลื่อนไหวอยู่ภายใต้กระแสคลื่น ( Vibration ) ที่ต่ำ เพราะฉะนั้นพัฒนาการของสี่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้รวมทั้งมนุษย์จึงช้าและกินเวลานาน มนุษย์เมื่อตอนอยู่ในวัยเด็กก็มักจะถูกประเพณีและความเคยชินของโลกมนุษย์ผูกมัดจนทำให้ความทรงจำในอดีตถูกปิดกั้นให้ไปอยู่ด้านในสุดของจิตไร้สำนึก อย่างดวงดาวที่พวกเราอาศัยอยู่มีกระแสคลื่นสูงกว่าของโลก จึงทำให้พัฒนาการของเด็กที่เกิดมาในดวงดาวของพวกเราเร็วกว่าของโลกมาก ยกตัวอย่างเช่นถ้าชาวโลกต้องใช้เวลาถึง 14 ปีกว่าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ ในดวงดาวของพวกเราจะใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ในทางกลับกันแม้ชาวโลกจะกินเวลานานกว่าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้แต่กลับแก่เร็วมาก

คุณคงจะเห็นได้ว่าพวกเราแก่ช้าและดูไม่ค่อยแก่ในทางรูปโฉมภายนอก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพวกเราเรียนรู้วิธีที่จะนำเอาผลพวงที่ได้จากบทเรียนแต่ละครั้งนำมาใช้ใหม่ให้เป็นประโยชน์ในแต่ละวันนั่นเอง สี่งที่พวกเราตระหนักว่าไร้ประโยชน์ไร้สาระพวกเราที้งมันไปทันทีโดยไม่ลังเล พวกเราจึงหนุ่มแน่นอยู่เสมอเพราะพวกเราพยายามสำแดงถึงความใหม่ ความสดใสให้แก่ตัวเราเป็นประจำ ช่างปั้นหม้อมือหนึ่งเวลาเขาใช้สองมือจับดินเหนียวในสมองเขาได้มีจินตนภาพของหม้อที่ปั้นเสร็จสมบูรณ์แล้วเกิดขึ้นก่อนฉันใด ร่างกายของมนุษย์ก็ควรเป็นฉันนั้น เพราะมนุษย์แต่ละคนคือช่างปั้นหม้อที่ปั้นตัวของเขาขึ้นมาเอง โดยได้รับวัตถุดิบจากองค์พระผู้สร้าง สี่งที่จะทำให้ร่างกายของตนดีขึ้นหรือเลวลง สวยงามขึ้นหรืออัปลักษณ์ลง ก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิดเกี่ยวกับร่างกายตนเองของมนุษย์ผู้นั้น ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในจักรวาล

พวกชาวโลกมักชอบจินตนาการว่าเทพเจ้าอันเป็นนิรันดร์คือผู้ที่มีหน้าตาแก่เฒ่าแล้ว คุณไม่คิดว่าสี่งนี้เป็นเรื่องที่ขัดแย้งในตัวเองหรือครับ เพราะถ้าสี่งนั้นเป็นนิรันดร์แล้วมันจะต้องไม่มีอายุไม่ใช่หรือครับ อย่างทะเลลึกหรือผิวทะเลถ้ามันจะเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนี่งได้ ตัวทะเลก็ต้องมีชีวิตต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ส่วนบ่อน้ำที่ภายในของมันไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอีกต่อไปแล้ว แม้ตอนแรกน้ำในบ่อยังสะอาดบริสุทธ์ มันจะถูกสารแปลกปลอมจากภายนอกจำนวนมากมาทำให้ขุ่นจนได้ โรคภัยไข้เจ็บและความเสื่อมในร่างกายของคนเราก็เป็นเช่นเดียวกันครับ ถ้าชาวโลกไม่รู้จักวิธีที่จะดำเนินชีวิตอยู่อย่างสอดคล้องกับกฏของธรรมชาติแล้ว ตัวเขาก็ย่อมเผชิญกับภาวะขุ่นเน่าเสียอย่างแน่นอน สุขภาพร่างกายของมนุษย์จึงขึ้นอยู่กับสภาวจิตเป็นอย่างมาก แต่มนุษย์ส่วนใหญ่กลับไม่รู้วิธีใช้จิตมาควบคุมร่างกาย มัวไปนึกว่าเรื่องเจ็บไข้แก่ชราเป็นยถากรรมที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ต้องพึ่งยามารักษา หารู้ไม่ว่า วิธีคิดที่เป็นกระแสคลื่นขั้นต่ำเช่นนี้ต่างหากที่ทำให้มนุษย์มีอายุสั้นกว่าที่ควร”

หลังจากคุยกันเสร็จแล้ว พวกมนุษย์ต่างดาวก็พาอดัมสกี้ไปขึ้นยานบินและบินไปยานอวกาศลำแม่ของดาวเสาร์ ที่นั่นเขาได้พบกับมาสเตอร์อีกครั้ง มาสเตอร์ได้บอกอดัมสกี้ว่า

“มนุษย์โลกมีความเคยชินที่ชอบแบ่งแยกในสี่งที่ไม่บังควรแบ่งแยกโดยเด็ดขาด นี่คือความผิดพลาดอันใหญ่ของชาวโลก ขณะที่มนุษย์ต่างดาวอย่างพวกเขาไม่แบ่งแยกสี่งใดและยอมรับความสัมพันธ์ที่พึ่งพาต่อกันและกันของสรรพสี่ง พวกเขาไม่เศร้าโศกเสียใจต่อปรากฏการณ์ที่เรียกว่า”ความตาย”เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้ว ความตายก็เหมือนการย้ายที่อยู่ใหม่ของจิตวิญญาณนั่นเอง มนุษย์ดาวศุกร์แม้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนชาวโลกก็จริงแต่ที่ต่างกับชาวโลกเป็นอย่างมากเลยก็ตรงที่พวกเขารู้จักตนเองอย่างแท้จริง พวกเขาจึงไม่รู้จักความน่าเบื่อ เพราะแต่ละช่วงขณะที่ผ่านไปของพวกเขานั้นคือ ความปิติที่ได้รับใช้สรรพสี่งอย่างเท่าเทียมกันนั่นเอง

หลังจากนั้น อดัมสกี้ยังได้รับโทรจิตของมนุษย์ต่างดาวเป็นระยะๆไป จนครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 23 เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1954 ครั้งนี้มนุษย์ดาวเสาร์ได้มาอำลา และบอกว่าจะกลับดาวศุกร์ในไม่ช้านี่แล้ว คราวนี้อดัมสกี้ถูกพาขึ้นจานบินและบินไปยังยานอวกาศลำแม่ของดาวศุกร์ มนุษย์ต่างดาวกล่าวว่า
“คนดาวศุกร์ไม่เพียงใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับกฏของจักรวาลเท่านั้น บรรยากาศเหนือดาวศุกร์ยังมีส่วนให้มนุษย์ที่นั่นมีอายุเฉลี่ยถึงหนึ่งพันปีด้วย ในสมัยก่อนที่โลกของคุณยังเคยมีบรรยากาศที่เมฆปกคลุมตลอดแบบดาวศุกร์ อายุเฉลี่ยของมนุษย์โลกในสมัยนั้นก็ยาวนานกว่าสมัยนี้มาก เพราะถ้าไม่มีเมฆปกคลุมบรรยากาศเอาไว้ รังสีต่างๆจะเข้ามาในบรรยากาศและมีผลต่อร่างกายมนุษย์ ถ้าคุณลองกลับไปอ่านคัมภีร์ไบเบิลดูให้ดีจะพบข้อความบางตอนที่บอกว่ามนุษย์เรี่มมีอายุเฉลี่ยสั้นลงภายหลังจากที่สามารถเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้ และถ้าหากคุณได้รู้ข้อเท็จจริง เหมือนกับพวกเราว่าโลกใบนี้กำลังจะเกิดภาวะที่เรียกว่า Pole shift หรือแกนของขั้วโลกเอียง ซึ่งเราก็ยังไม่รู้เวลาที่จะเกิดสี่งนี้ชัดเจนนักว่าจะเกิดเมื่อไหร่แน่ เพียงแต่รู้ว่ามันพร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งถ้าหากโลกใบนี้ครบรอบของมันจนเกิดการเอียงของแกนขั้วโลกอย่างสมบูรณ์แล้ว พื้นแผ่นดินใต้สมุทรก็คงโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำแผ่นดินที่อมน้ำมานานคงจะถูกความร้อนเผาผลาญให้น้ำระเหยกลายเป็นไอเป็นเมฆขึ้นปกคลุมท้องฟ้าอีก เมื่อถึงตอนนั้นแหละ อายุเฉลี่ยของมนุษย์ก็ยืนยาวเป็นร้อยปีได้อีก การมาสำรวจภาวะการเอียงของแกนขั้วโลกของโลกใบนี้จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเราต้องจับตามองโลกใบนี้อยู่ตลอดเวลา เพราะการเอียงของแกนขั้วโลกของโลกใบนี้จะส่งผลกระทบต่อดวงดาวอื่นในระบบทางช้างเผือกและมีผลต่อเส้นทางการเดินเรือของยานอวกาศของเราด้วย”

“ภาวะแกนขั้วโลกเอียงอย่างฉับพลันหรือ Pole Shift จะก่อให้เกิดหายนะครั้งใหญ่กับใบโลกนี้มั้ยครับ”

“มันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน กฏต่างๆที่ปกครองมนุษย์และดวงดาวที่มนุษย์อาศัยอยู่นั้น ชาวโลกในปัจจุบันยังไม่เข้าใจมันดี พวกเราอยากจะเน้นว่าแนวทางที่ผิดพลาดที่พวกชาวโลกเดินมาโดยตลอดนี้แหละคือสาเหตุแห่งความปั่นป่วนของโลกในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีสัญญาณเตือนออกมาให้เห็นตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาแล้ว พวกชาวโลกก็ยังไม่ใส่ใจอยู่ดี หลายสี่งถูกบันทึกไว้ในรูปแบบของคำพยากรณ์ในคัมภีร์ต่างๆมิหนำซ้ำ คำพยากรณ์หลายอย่างได้ปรากฏเป็นจริงแล้วครับ แต่ชาวโลกก็ยังไม่ยอมรับเรียนรู้บทเรียนอันนี้เสียที

ถ้าหากชาวโลกคิดจะมีชีวิตรอดโดยไม่ก่อให้เกิดความหายนะครั้งใหญ่แล้ว พวกเขาจำเป็นจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่ ให้เห็นคนอื่นเป็นตัวเอง เห็นคนอื่นเป็นสะท้อนของตัวเองให้จงได้ เพราะความโหดร้ายก็ดี การฆ่าคนอย่างไม่แคร์ก็ดี หาใช่เจตนาของพระผู้สร้างไม่”

“ผมพอจะทราบอยู่เหมือนกันครับว่าโลกใบนี้กำลังจะเข้าสู่รอบใหม่ ซึ่งบางคนก็บอกว่าจะเป็นยุคทอง บ้างก็ว่าน้ำจะท่วมโลก ไม่ทราบว่าพวกคุณมีความคิดเห็นอย่างไรครับ?”

“ที่ดาวของพวกเราไม่เรียกชื่อการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นหรอก พวกเราตระหนักดีว่าทุกสี่งเป็นความก้าวหน้า แต่ถ้าจะให้เราตอบคำถามนี้เพื่อเสริมความเข้าใจคุณ เราก็คงจะตอบว่า ชาวโลกกำลังเข้าสู้ยุคจักรวาลในไม่ช้านี้ ซึ่งในยุคจักรวาลนี้แหละที่ชาวโลกจะได้ค้นพบว่าพระเจ้าของพวกเขานั้น หาได้ดำรงอยู่ในที่ไกลโพ้นไม่ หากแต่ดำรงอยู่ในสรรพสี่งรอบๆตัวเขา และดำรงอยู่ภายในตัวของพวกเขาเองด้วย ( ข้อนี้สนับสนุนข้อมูลของจิตจักรวาลที่ว่า ให้มนุษย์ค้นหาพระเจ้าในตัวเองให้เจอ )

ยานบิน UFO ของพวกเราได้ออกมาปรากฏตัวบนท้องฟ้าของโลกและสำแดงเทคนิคการบินที่ไม่มีเครื่องบินของชาวโลกไม่ว่าประเทศไหนสามารถทำได้ เรื่องนี้ พวกนักวิทยาศาสตร์ของชาวโลกรู้ดีและรัฐบาลต่างๆก็รู้ดี มีนักบินหลายคนที่เคยเจอจานบินของพวกเรา และต่อไปก็คงมีชาวโลกอีกเป็นจำนวนมากที่เห็นยานบินของพวกเราอีก ความจริงเรื่องเหล่านี้ได้ถูกพยากรณ์เอาไว้แล้ว โดยคนยุคก่อน ในคัมภีร์พยากรณ์คนสมัยก่อนนั้นแทบกล่าวไว้เหมือนกันหมด ว่าโลกทั้งโลกจะตกอยู่ในความระส่ำระส่าย เมื่อมีสัญญาณต่อไปนี้ออกมาปรากฏก่อน

นั่นคือเมื่อเหล่ากุลบุตรของเทพเจ้าลงมาจากฟ้าเพื่อมาช่วยโลก

สภาพของโลกในปัจจุบันขณะนี้มิใช่ใกล้เข้าสู่ความหายนะไปทุกทีแล้วเหรอ แล้วใครเป็นผู้ก่อล่ะ ? ก็ตัวมนุษย์เองไง พวกมนุษย์เรียกบรรยากาศนอกโลกว่าฟ้าและพวกเราไม่ใช่กุลบุตรกุลธิดาของพระเจ้าหรอกเหรอ

คุณไม่คิดรึว่าคำพยากรณ์ของคนยุคก่อนกำลังปรากฏเป็นจริง

INFO: http://ufokaokala.com/index.php?topic=6349.0

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

Displaying Solar-Terrestrial Data Panels on your site




http://www.hamqsl.com/solar.html

เปิดบ้าน วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีผู้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง



เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก สำหรับ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซีอีโอของ บริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ว่าเป็นบุคคลที่รวยเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นสูงถึง 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1.3 ล้านล้านบาท แต่หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่า มหาเศรษฐีผู้นี้จะดำรงชีวิตอยู่อย่างสมถะเรียบง่ายภายในบ้านที่มีราคาเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น!

รายงานระบุว่า นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ อาศัยอยู่ในบ้านที่เขาซื้อเมื่อปี ค.ศ. 1958 (พ.ศ. 2501) ราคา 31,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.8 แสนบาท (ปัจจุบันบ้านหลังนี้มีมูลค่าราว 652,619 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 20 ล้านบาท) ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1921 (พ.ศ. 2464) อยู่ใจกลางเมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกาของสหรัฐฯ ภายในบ้านมีเนื้อที่ 6,570 ตารางฟุต (610 ตร.ม.) ซึ่งเป็นบ้านหลังโปรดเพียงหลังเดียวที่เขามีไว้ในครอบครอง

โดย นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เปิดเผยว่า จะย้ายบ้านไปทำไม ในเมื่อเขามีความสุขที่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เขานึกไม่ออกว่าการมีบ้านสิบหลังทั่วโลกจะทำให้ชีวิตดีขึ้นได้อย่างไร อีกทั้ง เขาไม่ชอบดูแลบ้านพร้อมกันหลายหลัง แล้วก็ไม่อยากให้คนอื่นมาดูแลบ้านแทนด้วย ดังนั้น เขาจึงไม่คิดว่าการมีบ้านหลาย ๆ หลังจะทำให้มีความสุขมากขึ้น
 

 





นอกจากนี้ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าภายในห้องทำงานที่ซึ่งน่าจะเต็มไปด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ไฮเทคราคาแพงมากมาย แต่กลับไร้ซึ่งคอมพิวเตอร์ เครื่องคิดเลข หรือแม้แต่อุปกรณ์อื่น ๆ เลย เพราะเขาเพียงแค่นั่งในห้องทำงานและใช้เวลาอ่านหนังสือทั้งวัน

นอกจากการดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายแล้ว นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญบริจาคให้กับองค์กรการกุศลมากมาย ซึ่งเขาเคยลั่นวาจาเอาไว้ว่า จะบริจาคทรัพย์สิน 99 เปอร์เซ็นต์ ให้กับ 5 องค์การกุศล โดยเน้นบริจาคผ่านทาง เกตส์ ฟาวเดชั่น ของนายบิลล์ เกตส์ เป็นหลัก ซึ่งจะทยอยบริจาคในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่และบริจาคส่วนที่เหลือหลังเสียชีวิต

INFO: http://men.kapook.com/view47116.html

Update iOS 6 ไม่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้

          ผู้ที่ใช้ iPhone และ iPad ทำการ Update เป็น iOS 6 แล้วพบปัญหาไม่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ โดยจะ redirect ไปยัง "Page Not Found" บนเว็บไซต์ของ Apple

มีผู้เสนอวิธีแก้ไข โดยส่วนใหญ่แนะนำให้ reset function การเชื่อมต่อ network หรือ on/off การเชื่อมต่อ รวมถึงการตั้งค่า Wi-Fi เป็น HTTP Proxy to Auto มีการเปิดเผยว่า bug Wi-Fi บน iOS 6 เป็นข้อผิดพลาดที่ไม่ได้เกิดจากการทำงานของ OS

เนื่องจากการทำงานของ iOS 6 (และเวอร์ชันก่อนหน้านี้) ในส่วนของ Wi-Fi มันจะมีการตรวจสอบความสำเร็จในการเชื่อมต่อ โดยปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อผู้ใช้พยายามเชื่อมต่อ Wi-Fi อีกครั้ง มันดูเหมือนจะเชื่อมต่อได้ แต่หลังจากนั้นมันกลับ redirect  ไปที่หน้าเว็บ "Log In/404 Page" หรือไม่พบหน้าเว็บที่ต้องการจากเว็บไซต์ของ Apple ซึ่งประเด็นนี้มีคำอธิบายว่า iOS จะตรวจสอบการล็อกอินของ Hotspot หากเชื่อมต่อสำเร็จ ก็จะแสดงหน้าเว็บการเชื่อมต่อ "success" บนเว็บไซต์ของ Apple สำหรับกรณีของปัญหาที่เกิดขึ้น การเชื่อมต่อ Wi-Fi สำเร็จ แต่หน้าเว็บ "Sucess" http://www.apple.com/library/test/success.html บนเว็บไซต์ Apple ถ้าไม่สำเร็จก็จะโผล่หน้า Log In ขึ้นมาแทน ประเด็นคือ มีมือดีไปลบหน้าเว็บนี้ออกไป ทำให้ iOS 6 ไม่พบหน้าเว็บดังกล่าว แม้จะเชื่อมต่อสำเร็จ ก็เลยส่งหน้าเว็บ Log In/404 Page กลับไปให้แทน 
        ล่าสุดมีรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวได้ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip 

คลิก: วิธีแก้ปัญหา iOS 6 เปิด Wi-Fi เชื่อมต่อ internet ไม่ได้ 

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

เมื่อโลกเสียสมดุล - ดร สมิทธ ธรรมสโรช


ดร สมิทธ อธิบายภาวะเมื่อโลกเสียสมดุล
อาจจะเกิดภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เมื่อโลกย้ายขั้วของสนามแม่เหล็กโลก ไทยที่อยู่เส้นศูนย์สูตรมีโอกาสเจออากาศติดลบห้าสิบองศา ภาวะแช่แข็งแมมมอธที่เคยเจอมาแล้ว โลกเสียสมดุล และเริ่มเอียงน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ละลายด้วยความรวดเร็ว 96 ชม อีกไม่นานแล้วแบบนี้ ทำความเข้าใจเรื่อง น้ำแข็งที่เกาะกรีนแลนด์ละลายตอนกลางของเกาะ มีแผ่นน้ำแข็งที่มีความหนามากกว่า 3 กิโลเมตร

Satellites See Unprecedented Greenland Ice Sheet Surface Melt

ภาพที่เห็นเป็นสีชมพู หมายถึง ดาวเทียมตรวจจับความร้อนได้ ที่ผิวน้ำแข็งบังเอิญตรวจพบว่ามันเกิดขึ้นภายในภายในเวลาแค่4วันหมายถึง มีการละลายที่พื้นผิวหน้าของน้ำแข็งไม่ได้หมายความว่าน้ำแข็งที่กรีนแลนด์ละลายไปแล้ว 97 เปอเซนต์ เพราะถ้าละลาย 97 จริง กรุงเทพจมน้ำไปแล้ว

...เป็นการละลายอย่างช้าๆ คาดว่าจะกลับคืนมาได้เป็นปกติช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับว่า เราจะรู้สาเหตุมั๊ยว่าอะไรเป็นตัวการที่ทำให้อุณหภูมิบริเวณนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันขึ้นมา กรุงเทพปีนี้ ต่อให้ไม่มีมวลน้ำด้านบนเทลงมา ก็ท่วมแน่นอน ระดับน้ำทะเลปานกลางเปลี่ยนไปแล้ว เพิ่มระดับสูงขึ้นจ้า ถ้ากรีนแลนด์ ละลายหมด มันจะสูงเพิ่มมาอีกตั้ง 7 เมตรนะครับ ฟังข่าวน้ำแข็งกรีนแลนด์ไว้ดีๆกรุงเทพฯสูงกว่าเฉลี่ย 1-1.5 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง

ระดับน้ำทะเลปานกลาง กำลังทยอยปรับระดับความสูงขึ้นอย่างช้าๆ ทีมนักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลดาวเทียมบนเกาะกรีนแลนด์กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นละลายทุกๆ 150 ปี ยังมีอันตรายของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ที่อาจจะต้องเผชิญเหตุการณ์ล่วงหน้า เชนเดียวกับที่ประเทศรัสเซียเพิ่งได้รับไป แต่ในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง หากเกิดเหตุเช่นนั้นอาการจะหนักหนากว่ามาก

อาการแผ่นดินยืดในบริเวณกว้าง น่าจะเกิดขึ้นกับพื้นที่ประเทศไทยก่อน แล้วจึงจะได้พบกับเหตุการณ์พื้นที่ส่วนเหนือเส้นศูนย์สูตรมืดไป 3 วัน

ตอนนี้หากสังเกตตำแหน่งที่พระอาทิตย์ตกดิน จะย้ายไปทางทิศเหนือร่วม 45 องศาแล้ว ขั้วโลกเหนือเอียงหนีสนามแม่เหล็กจากนอกโลกมากขึ้นๆ และตะแคงมาทางทิศตะวันตกอีกด้วย จนในที่สุดแกนโลกเหนือใต้ มีโอกาสนอนลงในแนวราบ 3 วัน พื้นที่โลกส่วนใต้เส้นศูนย์สูตรก็จะบังแสงอาทิตย์ในช่วงเวลานั้น....เมื่อไร้แสงอาทิตย์ไปชั่วคราวพื้นที่ที่มืดก็อาจจะเย็นลงเช่นเดียวกับที่เพิ่งเกิดขึ้นกับประเทศชิลี่ อยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นหนาวติดลบ 8 องศาในฤดูร้อน หากมีเตาผิงแบบใช้ถ่านไว้ในบ้านจะพอช่วยให้อุ่นขึ้น เปลี่ยนถ่านครั้งหนึ่งจะอยู่ได้12 ชั่วโมง....เคยเห็นเตาถังผ่าซีกที่พ่อค้าใช้ปิ้งขนมปั้นกลมๆไหม ไม่มีควันและแสงไฟให้เห็นมีแ่ความร้อนที่คุขึ้นมาตลอดเวลา

ธรรมชาติก็ค่อยๆเปิดเผยอาการให้ชาวโลกที่ช่างสังเกตได้เห็นกันกับตาตนเองอยู่แล้ว หากใส่ใจ

ดาวนิบิรุ ได้โคจรมาใกล้โลกแล้ว?



รายงานข่าวจากประเทศจีนแสดงให้เห็นภาพดาวนิบิรุ โดยการโครงจรจะมาถึงโลกในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ตามปฎิทินมายาได้สิ้นสุดลงในวันนี้

ซึ่งหลายคนยังไม่เชื่อว่าเรื่องดาวนิบิรุ (Nibiru) หรือ แพนเน็ตเอ็ก (Planet X ) จะเป็นเรื่องจริง ภาพที่เห็นดวงอาทิตย์สองดวง อาจเป็นเพียงปรากฎการณ์ภาพลวงตา หรือการทำโฟโต้ช็อป บางก็บอกว่าคนที่สร้างกระแสเรื่องนี้ขึ้นมาพวกเขาพยายามที่จะโฆษณาเพื่อขายหนังสือ


ความแปลกประหลาดของหลุมดำในจักรวาล - The Strangest Black Holes in the Universe

มุมมองจำลองของหลุมดำในด้านหน้าของ Large Magellanic Cloud



หลุมดำเป็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์่ของจักรวาล เป็นสิ่งที่แปลกมีแรงโน้มถ่วงรุนแรงมหาศาลจนแสงไม่สามารถหนีจากเงื้อมมือของหลุมดำได้

หลุมดำมาในหลากหลายรูปแบบ จากดวงดาวมวลขนาดเล็กไปจนมีมวลมหาศาล เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่
ที่ใจกลางของกาแลคซี มีหลุมดำมากที่สุดคือ 10 หลุมดำ

  from the smallest to the largest and from cannibals to rogues.

อีก 4 ปี อาร์กติกจะไม่มีน้ำแข็งเหลืออยู่ในฤดูร้อน - Arctic expert predicts final collapse of sea ice within four years

 Arctic expert predicts final collapse of sea ice within four years

ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำแข็งจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้า ในช่วงฤดูร้อน จะไม่มีน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกเหลืออยู่ พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและเร่งด่วน

ศาสตราจารย์ปีเตอร์ วอดแฮมส์ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก เปิดเผยข้อมูลล่าสุดกับหนังสือพิมพ์การ์เดียนว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้า น้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกจะละลายหายไปหมดในช่วงฤดูร้อน

ซึ่งข้อมูลดังกล่าวขัดแย้งกับข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้าว่า ในอีกไม่ถึง 20 ปีข้างหน้า หากน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติดยังคงละลายอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ พอถึงช่วงฤดูร้อน อาจจะไม่มีน้ำแข็งเหลืออยู่ในมหาสมุทรอาร์กติกเลยก็เป็นได้

โดยศาสตราจารย์วอดแฮมส์ยืนยันว่า หากการคาดการณ์ของเขาเป็นความจริง จะถือเป็นภัยพิบัติระดับโลก และทุกประเทศควรร่วมมือกันเพื่อแก้ไขและป้องกันสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างจริงจัง และต้องยกให้เป็นวาระเร่งด่วน


ทั้งนี้ ศาสตราจารย์วอดแฮมส์ได้ทำการวิจัยโดยเก็บข้อมูลจากเรือดำน้ำที่แล่นผ่านมหาสมุทรอาร์กติกเป็นประจำทุกปี โดยจะวัดที่ความหนาของชั้นน้ำแข็ง และสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเคยเชื่อว่า ปริมาณน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกจะคงอยู่ไปได้อีก 50 ปี แต่หลังจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่มีการละลายของน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง เขาจึงเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ พร้อมยืนยันว่า ภายในปี 2559 มหาสมุทรอาร์กติกจะเป็นดินแดนที่ปราศจากน้ำแข็งในช่วงฤดูร้อนอย่างแน่นอน