วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แก้ Firefox new tab แล้วขึ้นหน้าที่ไม่ต้องการ

firefox มีหน้า page ประหลาดมาทำให้รำคาญ ถึงจะตั้งค่า show a blank page ก็ไม่หาย


 วิธีแก้ 
1.ในช่อง address bar พิมพ์ว่า about:config และ คลิกที่ปุ่ม I’ll careful I promise.

 2.ในช่อง Search พิมพ์ชื่อที่ต้องการ เช่น mystart


3.Double-click ในรายการที่ปรากฎ แล้วใส่ URL ที่ต้องการ เช่น http://www.google.com

4.คลิกปุ่ม OK เป็นอันเสร็จ...  

setup D-link DIR-615 revision E4 with firmware 5.10 to dd-wrt

setup D-link DIR-615 revision E4 with firmware 5.10 to dd-wrt

step for update firmware dir-615 e4 to dd-wrt v24sp2

Basically, what you need to do is to check what is the hardwareID of the E4. How to do it is by looking at the original D-Link firmware from the D-Link Taiwan website (only the D-Link Taiwan website has the E4 firmware at the moment). Download and open the original D-Link firmware (download links are below) and open it using a HEX editor (i use ghex2). Scroll down all the way to the bottom of the file and you will see the hardwareID (it should read AP99-AR7240-RT-091105-01). Now, compare the hardwareID of the original D-Link firmware (DIR615E3_E4_FW510B09.bin) with the DD-WRT firmware (dir615e4-factory-to-ddwrt-firmware.bin). Edit the DD-WRT firmware to have the same hardwareID of the original D-Link firmware. For me, i only had to change the last digit from 5 to 1.

find hex editor for edit firmware dir615e4-factory-to-ddwrt-firmware.bin
sudo aptitude install ghex

download ver 5.1 form dlink
http://wrpd.dlink.com.tw/router/firmware/DIR-615/Ex/Default/DIR615E3_E4_FW510B09.bin
download v24sp2 from dd-wrt
http://dd-wrt.com/routerdb/de/download/D-Link/DIR-615/E4/dir615e4-factory-to-ddwrt-firmware.bin/3835

ok i edit only
"AP99-AR7240-RT-091105-05" to "AP99-AR7240-RT-091105-01"

connect to dir-615 via cable > 192.168.1.1
set user : admin
password :

Status > Wireless > Site survey > choose Primary Router
save & applysetting
then auto switch to
Wireless > Basic Settings > Wireless Mode : Client > Save > check the Wireless Network Name (SSID) is your Primary Router
> save & applysetting

set security parameter for connect to Primary Router.
i use wep for old Primary Router.
Wireless > Wireless Security > 
Security Mode : WEP
Authentication Type : Open
Default Transmit Key : 1
Encryption : 64 bits 10 hex digits
Key 1 : xxxxxxxxxx
> save & applysetting

Setup > Basic Setup > Network Setup
192.168.1.2
255.255.255.0
192.168.1.1
192.168.1.1

> save & reboot

DD-WRT Forum :: View topic - D-link DIR-615 revision E4 with firmware 5.10:

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Unlock Root : โปรแกรมสำหรับทำ root android

Unlock Root



สำหรับท่านที่ต้องการ ใช้เครื่อง android ในสิทธิ์ root การ unlock root ผ่าน Script เช่น ICSs2Root มีความยุ่งยากและอาจเกิดปัญหาได้ ถ้าขาดความชำนาญ ขอแนะนำโปรแกรม UnlockRoot ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีหน้าต่าง ทำงานที่ง่ายสะดวกในการใช้งาน และสนับสนุกหลาย อุปกรณ์ ทดลองใน tab จีน บางรุ่น ก็ทำ unlock root ได้ สามารถเข้าไปโหลดโปรแกรมได้ที่ http://unlockroot.com/index.html

ขั้นตอนการทำ Unlock Root:
1.เปิดอุปกรณ์แบบ USB Debugging mode ไปที่ Settings -> Developer options -> คลิกที่ USB debugging

(แสดงการเปิด USB debugging ใน Galaxy S2 Android 4.0.3)

2.เชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยสาย USB กับเครื่องคอมพิวเตอร์, และรัน UnlockRoot.exe (เปิดโปรแกรม UnlockRoot ที่นี่ Start -> All Programs -> Unlock Root -> คลิก Unlock Root )


(แสดงการเปิดโปรแกรม UnlockRoot ในหน้าต่าง windows XP)

 3.เมื่อเปิดโปรแกรม Unlock Root แล้ว คลิกที่ "Root" (ปุ่ม Root สีเขียวใหญ่ๆ ทางซ้ายมือ รูปด้านล่าง)

Note: จำเป็นต้องมีการติดตั้ง driver ของอุปกรณ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก่อน

หน้าต่างโปรแกรม Unlock Root:


Auto-detect your device: ถ้าการเชื่อมต่อถูกต้อง และอุปกรณ์สนับสนุนกับโปรแกรม Unlock Root จะแสดงหน้าต่างดังนี้


ที่หน้าต่าง Choose a Connecte Device คลิกที่ชื่ออุปกรณ์ (ในตัวอย่างนี้ คลิกที่ [1] samsung GT-I9100 4.0.3)

Rooting your device:


Install Power Saver to save power for you and extend battery life (Recommend): ต้องการติดตั้ง Power Saver หรือไม่


You need to restart your mobile phone to make it become effective after get ROOT permission: รีสตาร์อุปกรณ์ (เครื่องโทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บ)


After reboot, your device would have root access permission. หลังจากรีบูต อุปกรณ์เสร็จ คุณจะได้ใช้สิทธิ์ root ได้. 

Note: อย่าลืมปิด USB debugging

 Or : http://unlockroot.com/index.html คลิกปุ่ม Download

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

โลกนี้ไม่สูญสลายหรอก ธันวาคม 2012

เพียงแต่เป็นจดเริ่มต้นของเรื่องราวต่างๆ ในการที่จะพาเราไปยังจุดสูงสุดในด้านจิตใจ แน่นอนความทุกข์ยากต่างๆ จะยิ่งเพิ่มขึ้นมามากมาย ทั้งภัยพิบัติ สงคราม นั้นคือจากสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้ทำ เพื่อสอนบทเรียนบางอย่างให้แก่มนุษย์ ให้มนุษย์รู้จักความรักมากขึ้น ในอันที่จะนำไปสู่การพัฒนาความเจริญด้านจิตใจ ให้สู่จุดสูงสุดแห่งภาวะในการหลุดพ้น รู้จักตัวตน รู้จักความจริง เหตุการณ์ต่างๆ มันจะค่อยเกิด สอนบทเรียนเราไปเรื่อยๆ โลกจะยังไม่สลายไปในทันที วันหนึ่งอาจจะอีก สิบปีหรือร้อยปี พันปี ข้างหน้า

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ทำไมเวลามันหมุนเร็วเหลือเกิน

นี่ก็เป็นอีกวันที่เข้ามาเขียน blog วันที่ผ่านๆ มามันเร็วเหลือเกิน แป็บเดียวก็ถึงวันนี้หละ ยังมีอะไรๆ อีกหลายอย่างที่ยังไม่เสร็จ และยังไม่ได้เริ่ม คงต้องใช้เวลาอีกระยะ ผ่านชั่วโมง ผ่านวัน ผ่านเดือน และผ่านปี มันช่างรวดเร็วทันใจ อะไรอย่างนี้ แต่ดีหน่อยที่วันนี้ไม่มีเรื่องทุกข์ีร้อนอะไร แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องให้คิด เพียงแต่ปลงกับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ถามตัวเองว่า เกิดมาทำไม อยู่เพื่ออะไร แล้วสุดท้ายของชีวิต จะไปที่ไหน พยายามทำแต่ความดี ถึงแม้จะมีอุปสรรคต่างๆ เข้ามา ยอมรับว่าบ้างครั้งหลงผิดไปบ้าง ต้องดึงสติกลับคืนมา ให้ใจนั้นคิดแต่สิ่งที่ดีเท่านั้น การจะอยู่ร่วมกับคนหลายๆ คน เราต้องวางตัวให้ดี ยิ่งจุดประสงค์เรามุ่งทางดี จึงมีหลายๆ อย่างที่ต้องหลีกหนี ให้ได้ ความดีนั้นประเสริฐ ไม่เห็นผลทันที มันยากที่ต้องมานั่งคอยปฎิเสธในสิ่งที่ไม่ดี แต่เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อจุดสูงสุดของชีวิต ไม่มีใครเข้าใจตัวเราดี ไปกว่าตัวเราเอง

จิตใจนั้นอย่าปล่อยให้มันไหลไปเอง เพราะมันคอยแต่จะมีเรื่องมากระทบจิตของเรา ทำให้เราไม่นิ่ง ต้องพยายามควบคุมมัน อย่าปล่อยให้กิเลสทั้งปวงเข้ามากัดกินได้ ความว่างเปล่าของจิต นั้นหละคือความสุขที่แท้จริง วันๆ หนึ่ง มีเรื่องราวเข้ามามากมาย ต้องยอมรับมัน เราหลีกเลี่ยงจากสิ่งนี้ไม่ได้ ต้องทนอยู่กับมัน ทนไปจนวันตาย ไม่ใช่ไม่พยายามนะ ถ้าพร้อมเมื่อไร ก็อยากจะปลีกตัวออกจากสังคม หาที่สงบเงียบอยู่ พยายามยังไงก็ยังไม่พร้อม ถ้าตัดสินใจไปวันนี้ เรายังไมพร้อม แล้วจะเดือนร้อนเปล่าๆ ทนอยู่กับมัน แล้วมันจะชินไปเอง อย่าไปโทษโชคชะตาเลย ก็เรามันไม่ดีเอง ถึงต้องมาตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ ทำเองก็ต้องรับเอง ได้แต่บอกกับตัวเองว่าจงเข้มแข็ง เรายังมีความหวัง

พยายามให้สุดความสามารถ ยอมรับผลที่เกิดขึ้น ใช่แล้ว ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ ตัวเราก็ไม่สมบูรณ์แบบ ยอมรับมันให้ได้ อยู่กับมัน ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้มันดี แต่ปัญญามีเท่านี้ ทำได้เท่านี้จริงๆ ทุกวันนี้อยู่กับปัจจุบัน และมีความหวังกับอนาคต อดีตมันผ่านมาแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่มันก็เป็นบทเรียนที่ดีอย่างหนึ่ง เพื่อที่เราจะได้ไม่ทำผิดซ้ำซ้อน อย่าเผลอเชียวหละ ความประมาทนั้น รออยู่ มีอยู่ทุกเวลา

สูดหายใจเข้า ปล่อยลมหายใจออก ทำให้มันมีจังหวะ ทำใจให้สบาย ต้องสู้ต่อไป สู้ไปจนวันตาย สู้กับตัวเอง สู้กับจิตใจของตัวเอง อย่าไปหวังผลสำเร็จ เราไม่ได้เป็นผู้กำหนด เราควบคุมมันไม่ได้ หวังได้อย่างเดียวว่ามันจะดีขึ้น กี่ครั้งแล้วที่ไม่สมหวัง บอกได้แต่เพียงอย่าท้อ ตราบใดที่มีแรงสู้ จงสู้ให้ถึงที่สุด อย่าได้แคร์ อะไร มันเป็นบททดสอบที่ดี จะชนะมันได้ ต้องอึด ต้องนิ่ง จิตใจต้องพร้อม ปัญญาและร่างกาย ก็ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน

วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สนใจ จิตวิทยา

ฉันกำลังสนใจเรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยา ข้อมูลส่วนใหญ่ที่หามาอ่านศึกษา คงไม่พ้นค้นที่ Google จิตวิทยาเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ทำให้เราเข้าใจจิตใจมนุษย์ และที่สำคัญคือเข้าใจตัวเราเอง ได้รู้ในหลายๆ แง่มุม ที่หักเหจากสิ่งที่เราคิดและเข้าใจ ศึกษามากเท่าไร ทำให้เกิดความขัดแย้งกับความคิดของตัวเอง ถ้าสิ่งนั้น ไม่ตรงกับที่ใจเราคิดอยู่ แต่เราต้องเปิดใจยอมรับ ซึ่งเป็นไปได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เราอาจจะมีความคิด ความเข้าใจ ที่ผิดมาตลอด

ไม่อยากเขียนยาวมาก เห็นตัวหนังสือเยอะๆ แล้วขี้เกียจอ่านขึ้นมาเลย

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ผ่านไปอีกวัน

ดูทีวีเห็นคนในนั้น แล้วทำให้นึกถึงคนๆ หนึ่งที่ไม่ได้นึกถึงนานมาแล้ว จะว่าลืมไปจากความทรงจำก็ไม่เชิง แต่พอเห็นคนเหมือนเท่านั้นหละ เรื่องราวต่างๆ ในอดีตมันก็ผุดขึ้นมาในสมอง เรื่องราวความทรงจำต่างๆ เกิดนึกขึ้นได้มาเฉยๆ ยังกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แต่ความทรงจำนี้มันผ่านมาสิบปีแล้วนะ ไม่คยนึกขึ้นได้ซักที่ เห็นทั้งภาพเหตุการณ์ ทั่งความรู้สึกตอนนั้น ระหว่างที่พิมพ์อยู่นี้ ก็เกิดนึกคิดถึงเรื่องต่างๆในอดีต ขึ้นมาเฉยเลย หลายเรื่องด้วย ผ่านเข้ามาเป็นละลอกๆ นี้มันอะไรกัน หรือว่าความทรงจำในอดีต จะตามมาหลอกหลอน แต่เราไม่ควรเอาความผิดพลาด ความไม่ดีในอดีตมาคิดให้มากหละ ไม่มีประโยชน์ แล้วข้อมูลความทรงจำพวกนี้ ที่ผ่านมามันไปอยู่ที่ไหน มีทั้งภาพทั้งเสียง แถมความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ต่างๆ ยังกลับอยู่ในเหตุการณ์ ครบถ้วนทุกมิติ แต่เสียงนี่มีบ้างไม่มีบ้าง บางคนรู้สึก มันเป็นข้อมูลที่เยอะมากๆ ไม่รู่ว่าสมองของเราเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ยิ่งคิดทบทวบ ระลึกถึงสิ่งเหล่านั่น มันออกมาหมด เยอะไปหมด ได้ครบทั้ง 4 มิติพิเศษ (ภาพ เสียง อารมณ์ คำบรรยาย) แต่บางเรื่องมันคิดไม่ออกซักที โดยเฉพาะเรื่องที่อยากจำ



วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ความมีอยู่

เวลาเดินไปเรื่อยๆ ในมิติที่เราอยู่ ต่างมิติ ในเวลาเดียวกัน อดีต ปัจจุบัน อนาคต อยู่ในเวลาเดียวกัน ในมิติที่คู่่ขนาน มีเหตุการณ์ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ซ้อนกันอยู่ ในเวลาในมิติหนึ่ง  เป็นอดีตของมิติหนึ่ง เป็นปัจจุบันของมิติหนึ่ง เป็นอนาคตของมิติหนึ่ง ไม่ได้มีแค่สามมิติ อดีต ปัจจุบัน อนาคต แต่มีหลายมิติมีทุกเวลา การอยู่เหนือกาลเวลา สามารถเป็นได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต สามารถเห็นรับรู้ได้ ทุกมิติ เป็นสิ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะอดีตสักร้อยล้านปี ปัจจุบันขณะนี้ หรือ อนาคตอีกแสนล้านปี ก็รับรู้ได้เหมือนว่าอยู่ในเวลาเดียวกัน ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ทุกอย่างเคลื่อนไปตามวัฎจักร ที่มันเป็นไปตามบทบาท ปัจจุบัน มีปัจจุบัน ที่ขนานกันไปอีก เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน เป็นเหตุแห่งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้ถูกกำหนดไว้แต่แรกแล้ว การรับรู้มากมาย ความรู้มากมาย ทุกอย่างไร้ขอบเขต มูลเหตุของสิ่งที่เกิด ไม่จำเป็นต้องหาคำอธิบาย เข้าใจในสิ่งนั้นเอง นี้คือกฎของจักรวาล

บางทีก็ไม่มีแก่นสารอะไร


ไม่ใช่ศิลปิน ไม่ใช่นักประพันธ์ ไม่ใช่นักเขียน
ไม่ได้มีแก่นสารอะไร แค่ปล่อยใจไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีแก่นสาร ไม่อยากสับสนวุ่นวาย ทุกวันนี้ แค่หาวิธีหนีจากความเบื่อหน่าย ก็ยากเย็นหละ จะมานั่งเบื่อหน่ายไปทำไม มันบังคับ เกิดมาแล้วก็ต้องดิ้นรนกันไป เหมือนจะมานั่งระบาย ไม่หรอกแค่อยากบันทึกไว้ว่า ณ เวลาหนึ่ง คิดอะไรอยู่ ต้องเลิศเลอ สวยหรู ด้วยหรอ กับความคิดขณะหนึ่งของอารมณ์ วันๆ หนึ่ง มีเรื่องอะไรให้คิดตั้งเยอะแยะ ขนาดที่ว่าไม่อยากจะคิด ยังผุดขึ้นมาได้เลย กับความคิดที่ร่องรอย จะวางตัวกับหน้่ากากสังคมหรอ ขึ้นชื่อว่าหน้ากากแล้ว มันก็ไม่ใช่หน้าจริง ใช่แล้วไม่ว่ากันหรอก ต่างคนก็ต้องการความยอมรับ ต่างคนก็กลัวความอับอาย กลัวโดนดูถูก ดีแล้วที่ไม่ปล่อยตัวไปตามอารมณ์มันคิดไป หน้าแปลกไหม ทำไมถ้าปล่อยตัวปล่อยใจไป แล้วมันชอบไปในทางไม่ถูกไม่ควร นั้นสิ มันต้องมีเหตุผลของมัน หรือว่ามนุษย์หนีออกจากความจริง ที่ควรจะเป็น แล้วความจริงอะไรหละ ตามสภาพความเป็นจริงของธรรมชาติอย่างนั้นหรอ แล้วธรรมชาติจริงๆ มันเป็นยังไง จะมานั่งคิดหาคำตอบทำไม รกสมอง

เวลาไม่เท่ากัน

บางทีเวลามันก็ผ่านไปเร็ว บางทีมันก็นานแสนนาน มันอยู่ที่ใจทั้งนั้น จิตมันสุขเวลามันก็เร็ว จิตมันทุกข์เวลามันก็ช้า แต่ไม่รู้จะเกี่ยวเปล่า เวลาหมุนเร็วจะแก่ช้า เวลาหมุนช้าจะแก่เร็ว

เวลาที่นั่งอยู่ตอนนี้ มันดันรู้สึกว่าเวลาหยุดนิ่ง หรือเป็นเพราะจิตใจสงบ ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่สบาย ปกติดีนัก แต่เมื่อใจมันสงบ อะไรๆ มันก็พลอยรู้สึกดีไปด้วย

คิดอะไรได้ก็ขีดๆ เขียนๆ ไปเรื่อยเปื่อย อย่าหาแก่นสารสาระ อะไรเลย บางทีก็บ่อยๆ ใจไปซะบ้าง ไม่เดือดร้อนวุ่นวาย รบกวนคนอื่น นะดีแล้ว หาเวลาให้ตัวเอง เมื่อละวาง ได้แล้ว ใจจะปลอดโปร่ง ความคิดดีๆ จะเข้ามา

หยุดๆ บ้างนะ เรียกว่าหยุดทบทวนดีกว่า ปล่อยเรื่องข้างนอกทิ้งไป เหลือใจไว้เป็นของเราเอง เอาภาระหน้าที่อย่างอื่นทิ้งไปก่อน ตอนนี้ขอเวลาซัก 10-20 นาที สำรวมใจ คงไม่มากมาย หรือว่ายุ่งซะจนให้เวลากับตัวเองไม่ได้ ช่วงหนึ่งมันต้องมีว่างบ้างหละคนเรา ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ ก่อนนอนก็ได้  อย่าบอกว่า ไม่เคยนอน อันนี้ว่าไปอย่าง

เอาละคิดว่าต่อไปจะดีกว่านี้...

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไกลโพ้น อย่าเพิ่งตัดสิน


จักรวาลนี้กว้างใหญ่อย่าเพิ่งตัดสินใจว่า ไม่มีมนุษย์ต่างดาว เหลือพื้นที่อีกเยอะ จะมีมนุษย์แค่โลกที่เดียวกลัวว่าจะเสียพื้นที่ไปเปล่าๆ  การตัดสินอะไรโดยเอาความรู้สึกนึกคิดของตัวเองเป็นใหญ่ นั้นหละคือความมืดบอดแห่งปัญญา

ดาวมีอีกเป็นล้านๆ ดวง จักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีขอบเขต ไปเท่าไรก็ไม่ถึง ไม่จบไม่สิ้น ไม่มีกำเนิด ไม่มีสิ้นสุด

เวลาไม่มีตัวตน มิติมีมากเกินเข้าใจ มีอะไรมากมายกว่าที่รู้จัก อดีตและอนาคตเป็นสิ่งเดียวกันได้ พลังงาน รังสี คลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็ก แร่ธาตุ ฯลฯ มากมายเิกินบรรยาย

แล้วมนุษย์โลก เราเป็นยังไง โลกเราคือจุดเล็กๆ ของจักรวาล เราคือเศษผงธุลี ไร้ค่า

สิ่งที่ประกอบเป็นเรา สิ่งที่ทำให้เรามีตัวตน คือดวงจิต สามารถไปที่ใดก็ได้ สามารถรับรู้สึกต่างๆ เป็นสิ่งเดียวที่จะเข้าถึงความเข้าใจต่างๆ

ดวงจิตเราสามารถรับรู้ ปัญญาณที่เป็นความรู้สูงสุดได้ เพียงเปิดใจรับฟัง ละทิ้งกิเลสและความไม่ดีต่างๆ ทิ้งไป ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เข้าใจตัวตน เข้าถึงความไม่เที่ยงแท้ แล้ววันหนึ่งเราจะเข้าถึงได้

ทบทวนซักนิด ก่อนจะก้าวต่อไป

ครั้งหนึ่งเมื่อยังเยาว์ ยังมีหลายๆ อย่างที่ยังไม่รู้ ทัศนะคติต่างๆ ยังไม่เท่าทัน เรียกว่าอ่อนด้อยประสบการณ์ ก็ว่าได้ แต่เมื่อเติบโตมา อะไรหลายๆ ทำให้เข้าใจเหตุผลของมัน อดีตเราคงย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่วันนี้ให้มีสติ เข้าใจตัวเอง เข้าใจบทบาทสถานะของเรา เพื่อที่จะได้เิดินต่อไปได้อย่างถูกต้อง อนาคตเรายังเปลี่ยนได้

มาึถึงปัจจุบันนี้ ได้เข้าใจแก่นแท้ของชีวิตมากขึ้น ได้พบเจอและเห็นอะไรมามากพอสมควร ได้คิดแล้วคิดอีกมามากมาย ให้หยุดใจสักนิดแล้วลองทำสมาธิดู แล้วจะเข้าใจ บางทีความว่างเปล่าของจิต กลับให้อะไรๆ มากมาย โลกนี้ จักรวาลนี้มันกว้างใหญ่เกินที่จะเข้าใจ เราตอบไม่ได้ เราอธิบายไม่ได้ หลายๆ อย่างมันอยู่เกินความเข้าใจในเหตุและผล เพราะอะไร เพราะบางอย่างเหตุผลจากความคิดเรา ไม่มากพอที่จะอธิบายสิ่งนั้นได้ เราเอาวิธีคิดเหตุผลมาจากประสบการณ์ชีวิต เอามาจากการศึกษาร่ำเรียนมา แต่มันยังไม่สามารถที่จะตอบได้ทุกโจทย์ เรามันคิดไปตามกฎของวิทยาศาสตร์ อะไรที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ แต่เราตอบสิ่งนั้นง่ายๆ ว่าเหนือธรรมชาติ งมงาย หลอกลวง สำคัญไหมที่เราจะต้องเข้าใจมันทุกเรื่อง

ปล่อยให้ความเข้าใจมันเกิดขึ้นมาเองโดยธรรมชาติของมัน อาจจะร้อยปี ล้านปี ก็ช่างเถอะ ถ้าสิ่งที่ท่านบอกท่านสอนมาที่แท้มันไม่จริงหละ แล้วจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อวันที่เรารู้ว่าไม่จริง แต่ตัวเราไม่ได้อยู่บนโลกแล้ว เรานำสิ่งที่ดี ที่ท่านได้บอก ได้สอนมาปฎิบัติดีกว่า จะมานั่งคิดว่าอันนี้จริง อันนี้ไ่ม่จริง สุดท้ายทะเลาะกับตัวเอง ทะเลาะกับคนอื่น ถ้าเราเข้าใจสิ่งนั้นดีแล้วจงปฎิบัติเถอะ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ให้ระลึกไว้เสมอว่า คือการทำความดี เพื่อความดี ความดีเป็นสิ่งนิรันดร เป็นสิ่งเดียวที่จะติดต่อเราไปเมื่อสิ้นชีวิตแล้ว

การตายทางกาย ไม่ใช้การดับสูญ เรายังเหลือดวงจิต การมีชีวิตนั้นประกอบด้วยกายที่เป็นเนื้อเป็นสิ่งเน่าเปื่อยย่อยสลายไม่เที่ยงแท้ แต่ดวงจิิตเป็นสิ่งที่ไร้รูปไร้สสาร แต่คิดได้เห็นได้ เกินความเข้าใจของมนุษย์ เพราะไม่มีใครหาเหตุผลมาอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้

ความรู้ที่เป็นปัญญาสูงสุด เป็นความรู้แจ้ง มีอยู่ไม่ต้องเดินทางไปหา


จุดเริ่มต้นเล็กๆ ไม่สำคัญ แต่ขอให้ได้เริ่มทำ

จะคิดจะทำอะไร ต้องคิดและทำ ไม่คิดอย่างเดียว เดี๋ยวจะไม่ได้ทำซักที ทำเริ่มแรกอาจไม่ดี แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ให้ต่อยอด ต่อไป ดีกว่ามีแต่ความว่างเปล่า เป็นการคิดแต่ไม่ทำซักที ก็ไม่เห็นผลซักที ผลนั้นจะออกมาดีไม่ดี เริ่มต้นคงไ่ม่ดีดังใจ แต่ต่อไปความชำนาญ ประสบการณ์จะสะสมเพิ่มขึ้นเอง

อย่าปล่อยให้ความคิดในหัวล่องลอยไป เพราะจิตใจเราจะคิดไปเรื่อยเปื่อย มีสติระลึกอยู่เสมอ รู้จักเขารู้จักเรา ถ้าปล่อยจิตคิดไป มันจะปรุงแต่ง สร้างภาพไปต่างๆ นาๆ จะทำให้สับสนวุ่นวายใจ ต้องดึงจิตกลับคืนมาตั้งมั่นอยู่ในสติ คิดอ่านอย่างรอบคอบ คิดอย่างมีเหตุมีผล ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แม้ผู้ที่บอกสอนเราจะน่าเชื่อถือ หรือน่าเคารพยกย่อง

สุขทุกข์อยู่ที่ใจส่วนหนึ่ง อยู่ที่กายส่วนหนึ่ง สภาพแวดล้อม สถานะภาพ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เข้ามา ไม่รู้จะจัดอยู่ส่วนไหน เช่น ถ้าเราไปทำแก้วราคาแพงของคนอื่นแตก จะต้องชดใช้เงินจำนวนมาก เงินก็ไม่มี เป็นเรื่องทุกข์ จะห้ามไม่ให้ทุกข์ใจไม่ได้  เดือดเนื้อร้อนใจไปพึ่งใครก็ไม่ได้ จะผ่อนใช้เขา เงินจะกินไปวันๆ ยังหาไม่ได้เลย จะไปหยิบเงินเขาก็ไม่ให้ ถึงจะให้ก็ต้องเป็นหนี้ตามชดใช้กันอีก อันนี้เป็นทุกข์ เมื่อทุกข์ใจ ร่างกายก็พาลเจ็บป่วยไปด้วย สุขภาพจิตเสีย สุขภาพใจพลอยตามฟ้าตามฝน นี้คือเหตุแห่งทุกข์ แต่ถ้าเราสมบูรณ์อยู่ทุกข์ใจทุกข์กายยังไม่มี ควรจะระลึกดีไว้ มีสติไว้ จะได้ดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท เมื่อเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้นมา จะได้เตรียมกายใจไว้ก่อน อะไรมันจะเกิดเราห้ามไม่ได้

คิดดีไว้เสมอ สอนจิตฝึกจิตให้เป็นผู้คิดดี การคิดดีทำดี ตำราท่านบอกไว้เยอะแยะ หาอ่านศึกษาได้ เมื่อคิดดีทำดี หลีกหนีจากสิ่งไม่ดีทั้งปวง เราจะได้อยู่ที่ดี มีเพื่อนดี มีจิตใจที่ดี อยากมักมากในทรัพย์ที่ได้โดยมิชอบ อย่าเบียดเบียนเพื่อนมนุษย์ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าดูถูกคนอื่น อย่าหยิบหัวคน อย่าทำผิดโดยไม่รู้ตัว อันนี้สำคัญ คิดว่าทำสิ่งนี้แล้วดี ทำแล้วได้ทรัพย์สมบัติ ทำแล้วได้เจริญในหน้าที่การงาน แต่การได้สิ่งนี้มา บางทีอาจจะทำผิดบาปโดยไม่รู้ตัว เพื่อป้องกันตัวจากบาป ให้ระลึกใจไว้เสมอว่า ตัวของเราไม่ใช่ของเราวันหนึ่งก็เน่าสลายไป ทรัพย์สินเงินทองมากมายเท่าไรตายไปก็เอาไปไม่ได้

เพิ่งเป็นผู้แสวงหาธรรม อย่ายึดติดกับสิ่งใดโดยไม่คิดไตร่ตรองไว้ก่อน อย่าเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุและผล อย่าเป็นผู้หลงในความคิดที่ยึดติด อย่าหลงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูก อย่าดูถูกคนอื่นเมื่อไม่คิดตรงกับตน อย่าเชื่อว่าสิ่งที่ทำจะดีที่สุด ด้วยเหตุแห่งความคิดนี้ จะเป็นเหมือนสิ่งมืดมนในจิตใจเรา เช่นว่าเห็นคนอื่นว่าสิ่งนี้ดี แต่ตัวเองคิดว่าไม่ดี ก็จะหาเหตุผลในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีมาสนับสนุน โดยที่ไม่ดูเหตุผลของผู้อื่นที่ว่าสิ่งนี้ดี ฉะนั้น อย่าเพิ่งตอบโจทย์ในใจ ว่าอะไรดีที่สุด อะไรคืิอถูกอะไรคือผิด

เราเกิดมาวันหนึ่งก็ตาย สุดท้ายก็ตายกันหมด ความไม่มีโรคภัยเป็นลาภอันประเสริฐ ถ้าเกิดโรคภัยไข้เจ็บให้นึกถึงกรรมดีที่เคยทำ ถ้าโรคนั้นหนักหนาควรปล่อยใจไปตามวิถีแห่งเหตุและผล สิ่งที่เคยตั้งอยู่นั้นย่อมมีดับไป ระลึกแต่สิ่งดีๆ ที่เคยทำผ่านมา จดจำสิ่งดีๆ ให้อภัยผู้อื่น