วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

10 เหตุผลที่ทำให้คุณหลงรัก Note 2 (NOTE II)

 เท่าที่สังเกตผู้คนรอบข้างที่รู้จัก และเพิ่งอัพเกรดมือถือ ประมาณ 30% จะเลือกใช้ Galaxy Note 2 ของ Samsung ด้วยเหตุผลทีมันตอบโจทย์ตรงกลางระหว่างสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตได้อย่างลงตัว ประกอบกับกระแสข่าวการประกาศความสำเร็จของ Galaxy Note 2 ที่มียอดขายถล่มทลายกว่าห้าล้านเครื่องภายในสองเดือน ยิ่งช่วยยืนยัน และตอกย้ำข้อสังเกตข้างต้นได้เป็นอย่างดี



 ด้วยคุณสมบัติของ "Phablet" หรือลูกผสมระหว่าง "สมาร์ทโฟน" และ "แท็บเล็ต" ที่มีอยู่ใน Samsung Galaxy Note 2 ตลอดจนการออกแบบให้ตัวเครื่องบางเบาขนาดกำลังเหมาะใส่กระเป๋ากางเกงได้พอดิบพอดี แถมยังมีสไตลัสที่ช่วยให้การจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ทำได้อย่างสะดวกง่ายดาย และคล่องตัว การพกพา Note 2 ติดตัวจึงเหมือนกับมีทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการพกพาอุปกรณ์สองอย่างพร้อมกัน และผู้ใช้ในกลุ่มธุรกิจ เรียกว่า เครื่องเดียวเอาอยู่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip หลายๆ ท่าน อาจจะยังสงสัยว่าทำไม Galaxy Note 2 ถึงได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ทั่วโลกมากมายขนาดนี้ ว่าแล้วเรามาไขความลับกับ 10 คุณสมบัติที่กลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ใครที่ได้มีโอกาสพบเห็น หรือทดลองใช้งาน Note 2 แล้วเป็นต้องอยากได้ไปครอบครอง

1. ออกแบบสวยงามน่าใช้ จอใหญ่เต็มตา สำหรับจุุดเด่นตั้งแต่แรกเห็นก็คือ Galaxy Note 2 ได้รับการออกแบบให้มีความสวยงาม น่าหลงไหลไม่แพ้อุปกรณ์ iOS อย่าง iPhone หรือ iPad อีกทั้งยังตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้งานได้อย่างลงตัวอีกด้วย ทั้งในส่วนของหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว (Note รุ่นแรก 5.2") และความบางแค่ 9.4 มม. (ไม่ถึง 1 ซม.) ทำให้ผู้ใช้ยังคงสามารถถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะชอบจอแสดงผลที่สว่างสดใสใหญ่เต็มตา น่าใช้น่าสัมผัสกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ซึ่งการทำหน้าจอให้ใหญ่กว่าจนเห็นความแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง iPhone ได้อย่างชัดเจนนั้น (โดยเฉพาะเมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน) ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ Apple เคยทำสำเร็จมาแล้ว


2. S-Pen ปากกาเขียนจอมหัศจรรย์ นอกจากจอที่ใหญ่เต็มตาน่ามองแล้ว Galaxy Note 2 ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมการใช้งานที่ให้ประสบการณ์ใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้ลืมกระดาษ และปากกาไปเลย นั่นก็คือ S-Pen อุปกรณ์ที่ใช้จิ้มจอ เขียนตัวหนังสือ หรือใช้วาดรูปแทนนิ้วมือที่อาจจะใหญ่เกินกว่าจะใช้แทนหัวปากกาในการขีดเขียน และสร้างไอเดียบนหน้าจอขนาดนี้ นอกจากมันจะสะดวกในการจดบันทึกได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล เนื่องจากตอบสนองได้รวดเร็วแล้ว มันยังมีลูกเล่นในการใช้งานอื่นๆ อีกด้วย จะเรียกได้ว่า มัเนป็นปากกาเขียนจอที่ฉลาด และเก่งมากๆ จนน่าอัศจรรย์ก็ดูจะไม่เป็นการพูดเกินความจริงนัก




3. สนับสนุนการทำงานหลายจอ และหลายงานพร้อมกัน นอกจากเรื่องของดีไซน์สวยงามกับอุปกรณ์เสริมฉลาดสุดๆ แล้ว Galaxy Note 2 ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean ที่สนับสนุนการทำงานหลายหน้าต่าง ซึ่งหากจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ การทีผู้ใช้สามารถเปิดหน้าต่างใช้งานสองแอพพลิเคชันได้พร้มกันบนหน้าจอเดียว ไม่ต้องคอยเปิดปิดสลับไปมา มันทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกับกำลังใช้เดสก์ทอปของ Windows ที่คุ้นเคย ซึ่งการทำหลายงานได้พร้อมกัน นอกจากจะอำนวยความสะดวกสบายในการแก้ไขชิ้นงาน หรือการติดตามข้อมูลแล้ว มันยังช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นด้วย ด้วยหน้าจอขนาด 5.5" กับการใช้สองหน้าต่างแอพฯ ทำงานพร้อมกัน หากจอเล็กกว่านี้คงไม่เวิร์กแน่ๆ



4. จิ๋วแต่แจ๋ว คุณสมบัตินี้อาจจะไม่ตรงทีเดียว เพราะหากจะบอกว่ามันจิ๋วก็ดูเหมือน Galaxy Note 2 ก็ไม่ได้มีขนาดเล็กสักเท่าไร แต่จะว่าใหญ่มันก็เล็กกว่าแท็บเล็ตไซส์มินิทั้งหลายเกือบครึ่่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ภายในตัวเครื่องขนาดเล็กของ Galaxy Note 2 มันอัดแน่นด้วยขุมพลังประมวลผลที่เต็มเปี่ยม โดยมาพร้อมกับ"ควอด-คอร์"โพรเซสเซอร์ที่ทำงานด้วยความเร็ว 1.6GHz โอ้ว...นี่มันสมาร์ทโฟน หรือพีซีกันแน่ นอกจากนี้ยังใช้ชิปกราฟิกที่ทรงพลังอีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่รวดเร็วจนรู้สึกได้ ตอบโจทย์ทั้งการใช้งาน และบันเทิงอย่างเช่น เกมส์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋วได้อย่างไร



5. เข้าถึงแอพ และข้อมูลต่างๆ ในเครื่องได้อย่างง่ายดาย ความสำเร็จของอุปกรณ์ iOS ก็คือ ความเรียบง่ายของดีไซน์ และการใช้งาน ซึ่งความลับ (ที่ไม่ลับ) นี้ได้ถูกนำมาใช้กับ Galaxy Note 2 ด้วย โดยมาพร้อมกับโหมดการทำงานที่ง่ายมากสมชื่อนั่นก็คือ Easy Mode ด้วยโหมดการทำงานนี้ ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงฟังก์ชันสำคัญๆ อย่างเช่น รายชื่อผู้ติดต่อ และแอพต่างๆ จากที่หน้าโฮมได้โดยไม่ต้องเลื่อนหาให้เมื่อยนิ้วไถเลื่อนหน้าจอไปมาจนกว่าจะเจอ เนื่องจาก Easy Mode ของ Galaxy Note 2 จะให้คุณสามารถกำหนดคอนแท็คของคนที่ติดต่อบ่อยๆ บนหน้าจอ โฮมได้ ตลอดจนฟังก์ชัน และแอพฯ ทีใช้บ่อย (Favorite apps) แค่แตะทีเดียว ง่ายๆ มากๆ ไม่เชื่อลองดูคลิปข้างล่างนี้




6. รัน App ลื่นไหลไม่สะดุด Galaxy Note 2 สนับสนุนการรันโมบายแอพฯ ทุกตัวที่อยู่บนระบบปฎิบัติการ Android (มีให้เลือกมากกว่า 700,000 apps - ข้อมูลเมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา) ได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะเมื่อแอพฯ เหล่านั้นได้ทำงานบนสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่ทีสุดในตลาด "ควอดคอร์"โพรเซสเซอร์ที่ทรงพลัง และหน่วยความจำ 2GB เรียกว่า Note 2 เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่นสำหรับ Apps ที่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ของพวกมันได้อย่างเต็มที่ ตัวอย่างแอพฯ ที่น่าสนใจก็เช่น Soonr Scribble ที่ทำงานร่วมกับ S-Pen สามารถแก้ไข ตลอดจนขีดเขียนข้อความพิเศษซ้อนทับขึ้นไปบนไฟล์เอกสารได้กว่า 35 ฟอร์แมต ซึ่งรวมถึง Word, PDF, PowerPoint และ Exel หรือใครที่ชอบรีทัชภาพ อาจจะลองดาวน์โหลดแอพฯ Touch Retouch ที่ทำให้คุณรู้สึกได้เหมือนกับใช้ Photoshop บน Galaxy Note 2 ฯลฯ ว้าว!!!

 7. มัลติมีเดียเต็มรูปแบบ นอกจากจะเป็นสมาร์ทโฟนที่แรงสุดๆ แล้ว ความสามารถในเรื่องของการเป็นแท็บเล็ต โดยเฉพาะการใช้งานในส่วนของมัลติมีเดีย ต้องยอมรับ Samsung Galaxy Note 2 มีให้อย่างล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนวิดีโอฟอร์แมตต่างๆ มากมาย (ครอบคลุมฟอร์แมตยอดนิยมครบถ้วน) รวมถึงการเชื่อมบริการกับผู้ให้บริการเพลงดาวน์โหลด ตลอดจนในส่วนของกล้องถ่ายรูปความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่ด้านหลัง ซึ่งให้คุณเลือกชอตของภาพถ่ายที่ดีทีสุดได้ อ้อ...คุณยังสามารถป๊อปอัพวิดีโอขึ้นมาดูขณะทำงานบนแอพฯอีกตัวหนึ่งพร้อมกันได้เลยอีกด้วย เรียกได้ว่า พกพาเครื่องเดียว ตอบโจทย์ทั้งงาน และบันเทิงครบถ้วน



8. พก Galaxy Note 2 เหมือนกับมีเดสก์ทอปติดตัว สำหรับคุณสมบัติข้อนี้มาจากการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ Note 2 ด้วยซอฟต์แวร์ชื่อว่า ColdFusion โดยชุดทดสอบจะเชื่อมต่อมอนิเตอร์พีซี คีย์บอร์ด และเมาส์ไร้สาย เพื่อให้มันกลายเป็นพีซีที่สมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นรันโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน ColdFusion เพื่อดูว่า มันสามารถใช้งานแทนพีซีได้ หรือไม่? ซึ่งปรากฎว่า ผลการทดสอบความสามารถในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นวิดีโอพร้อมกันได้มากสุด (ทำได้ 4 คลิปก่อนระบบจะไม่สามารถทำได้) ตลอดจนการก็อปปี้ และวางภาพ รวมถึงการใช้บราวเซอร์ Galaxy Note 2 สอบผ่านการทดสอบทั้งหมด หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันมีประสิทธิภาพ และสมรรถนะการทำงานไม่แพ้พีซีนั่นเอง



 9. สตอเรจเพิ่มได้จนล้นทั้งในเครื่อง และบนคลาวด์ แม้ Galaxy Note 2 จะมีให้เลือกความจุของสตอเรจที่ 16GB, 32G และ 64GB แต่คุณสามารถเพิ่มได้อีกสูงสุดถึง 64GB ด้วยการ์ดหน่วยความจำ microSD สำหรับใครทีต้องการจัดเก็บเกมส์ แอพฯ เพลง และวิดีโอต่างๆ ตลอดจนไฟล์งาน แต่ถ้ายังไม่พอ Galaxy Note 2 จะให้คุณลงทะเบียนเพื่อใช้ DropBox ที่มีความจุ 50GB ได้อีกด้วย โดยหลังจากลงทะเบียนแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูลได้จากทุกที่ ทุกเวลา และทุกเครื่องในทุกมุมโลก แถมยังแชร์ไฟล์ และโฟลเดอร์ให้กับเพื่อนๆ หรือทีมงาน เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดายอีกด้วย นอกจากนี้ในทางกลับกัน คุณยังสามารถใช้ Galaxy Note 2 เป็นฮาร์ดดิสก์ภายนอก สำหรับพีซี หรือแมค เพื่อฝากไฟล์ต่างๆ ได้อีกต่างหาก



 10. เพราะมันไม่ใช่ Apple ตัวเลขสถิติจากบริษัทวิจัยตลาดหลายๆ แห่ง รายงานตรงกันว่า ตลาดโมบายถูกครอบครองด้วยสองบริษัทนั่นคือ Apple และ Samsung เหตุผลง่ายๆ ก็คือ ทั้งสองบริษัทสามารถพัฒนา และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่น่าหลงใหลให้กับผู้บริโภคทั่วโลกได้ไม่แพ้กันจนสามารถทำกำไรจากมือถือได้อย่างถล่มทะลาย ทางเลือกของผู้ใช้สมาร์ทโฟนไฮเอ็นต์ปัจจุบันจึงดูเหมือนค่อนข้างขัดเจนว่า ถ้าไม่ไปทาง iPhone 5 ของ Apple ก็คงจะเลือกเป็น Galaxy S3 แต่ที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ และได้รับการรีวิวจากสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ในทางบวกเสียเป็นส่วนใหญ่ก็เห็นจะหนีไม่พ้น Samsung Galaxy Note 2 ครับ


ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลจากทั้งสองตอน เชื่อว่า คงจะพอใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้กับคุณผู้อ่านได้ง่ายขึ้นนะครับ จะเลือกไปทางไหนดี ระหว่างสมาร์ทโฟนที่ทั่วโลกชื่นชมด้วยความเรียบง่าย ภายใต้ดีไซน์แบบเดิมๆ กับ Phablet (สมาร์ทโฟนไฮบริดแท็บเล็ต) อย่าง Galaxy Note 2 ที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ ด้านได้อย่างลงตัวทั้งสมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต ด้วยประสิทธิภาพระดับน้องๆ เดสก์ทอปพีซี ซึ่งจุดเด่นของการนำ S-Pen มาใช้เป็นเครื่องมือในการใส่ความคิดสร้างสรรค์ผ่านลายเส้นที่วาดได้ด้วยมือราวกับขีดเขียนบนกระดาษ ยิ่งทำให้มันเหนือกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปหลายขุม อย่างไรก็ตาม อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบแต่ละคนนะครับ จะเลือกทางไหนขึ้นอยู่กับความพอใจในการใช้งานของแต่ละคน



INFO: http://hitech.sanook.com