วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru(แห่งญี่ปุ่น) ทรงเตือนภัยปี 2012

เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru แห่งญี่ปุ่นสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ ทรงเตือนภัยปี ค.ศ.2012


คำแปล:

ฉันชื่อ เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru จากประเทศญี่ปุ่น ในปี 1976 ฉันเคยมีประสบการณ์ทางจิตที่น่าประหลาดใจมากอันหนึ่ง และนับตั้งแต่นั้นมา ตาที่สามของฉันก็เปิดออก ดังนั้น ฉันจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับ UFO, ผู้คน และรวมถึงผู้ที่อยู่ใต้พื้นโลกได้ ซึ่งพวกเขาเป็นอารยธรรม ที่มีพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าห้องสมุด ของโลกใต้พิภพคนนั้น ฉันก็ได้ติดต่อสื่อสารกับเขาด้วย

และจากข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งหมดเหล่านี้ที่ฉันมี ทำให้ฉันเชื่อว่า ในปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012 เป็นต้นไป มันจะมี 3 วันที่โลกใบนี้ จะเข้าไปสู่มิติที่ 5 เมื่อโลกผ่านเข้าไปสู่สถานที่แห่งนั้นแล้ว มันจะมี 3 วัน 3 คืนที่เราจะไม่มีไฟฟ้าใช้ มันจะเป็นคืนวันที่มืดมิดสนิทจริงๆ จะไม่มีดวงอาทิตย์ จะไม่มีดวงดาว ไม่มีแสงสว่างใดๆทั้งสิ้น พวกเราจะอยู่ในความมืดมิดอย่างแท้จริงเป็นเวลา 3 วัน

แต่ยังไม่มีสื่อสารมวลชนใด หรือข้อมูลข่าวสารใด ออกมาประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้เลย แต่รัฐบาลลับทั้งหลายรู้เรื่องนี้กันดี และพวกเขาก็เตรียมความปลอดภัยไว้ให้ตัวเองแล้ว พวกเขาพยายามที่จะหนีออกไปจากโลกใบนี้ หรือไม่ก็กำลังขุดอุโมงค์สร้างเมืองใต้ดินกันอยู่ อยู่ใต้ประเทศ นอร์เวย์ ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ หรือออสเตรเลีย ซึ่งในนั้นจะจุคนได้ประมาณ 1 หมื่นคน และปลอดภัยอยู่ในนั้น

แต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยหรอกนะ เพราะว่าพวกเราจำเป็นจะต้องชำระสะสางสภาวะจิตของตัวเราเองให้บริสุทธิ์ ทั้งทางด้านกายภาพ-และทางด้านจิตวิญญาณ ฉันจะบอกพวกคุณว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลานุภาพสูงสุด และพระผู้สร้าง คือพลังงาน และความรัก และแสงสว่างซึ่งส่วนหนึ่งของพลังงานความรักที่ว่านี้ ก็มีอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกๆคน เราสามารถโกหกคนอื่นๆได้ แต่เราไม่สามารถที่จะโกหกตัวเราเองได้ นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเรียกว่าจิตสำนึกหละ

มนุษย์โลกแต่ละคน มีส่วนที่สวยงามนั้นของพระผู้สร้าง อยู่ในวิญญาณของเราทุกๆคน ซึ่งวิญญาณนี้เองที่เป็นผู้ที่จะไปเวียนว่ายตายเกิด และเป็นส่วนที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ และอยู่ในตัวพวกเราทุกๆคน ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าจะชำระสะสางวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์หละก็ เราต้องมองดูชีวิตของตัวเราเองด้วยจิตสำนึกอันนั้น เพื่อดูว่าทุกๆ 5 ปีหรือราวๆนั้น นับตั้งแต่ตอนที่เราเกิด เราประพฤติตัวอย่างไร เราค้นหาอย่างไร เราพูดอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถที่จะชำระสะสางได้ ด้วยการมองดูชีวิตของตัวเราเองทุกๆ 5 ปี จนถึงบัดนี้

ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ทุกๆครั้งที่เราพบว่า เราได้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นการทำร้ายคนอื่นแล้วหละก็ เราก็จะสามารถชำระสะสางมัน และทำให้มันบริสุทธิ์ได้ ซึ่งทุกๆครั้งที่เราค้นพบมัน หัวใจของเราจะขยายตัวใหญ่ขึ้น แล้วเราจะสามารถหายใจได้ลึกมากขึ้น และทุกๆครั้งที่เรามีประสบการณ์นี้ ความมืดมิดอันนี้ทั้งหมด ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาจากหัวใจของเรา แล้วแสงสว่างสีทอง ก็จะเข้ามาสู่หัวใจของเราแทน ด้วยวิธีการนี้ เราจะสามารถมองเห็นได้ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้พวกเรายังพอมีเวลาอยู่ จนกว่าจะถึงปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012ในทางกายภาพแล้ว พวกเรายังสามารถชำระสะสางร่างกายเนื้อของเราได้ด้วยโดยวิธีการแรกที่สุด พวกเราไม่ควรจะดื่ม "น้ำผลไม้กระป๋อง" หรือ "เบียร์กระป๋อง"เพราะว่าอลูมิเนียม เป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อร่างกายของเรามากๆ และโดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เราจึงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้

ดังนั้น พวกเราแต่ละคนจึงสามารถที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง ด้วยวิธีการทำนองนี้และการออกกำลังกายบางประเภท ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วย และทุกๆวันเราก็สามารถที่จะสะท้อน.......(ไม่ชัวร์นะครับ ฟังไม่ค่อยออก - ผู้แปล) จิตวิญญาณของเราได้ด้วยอย่างที่มันเป็น

ในแก่นแท้ของพวกเราทุกๆคน พวกเราก็คือแสงสว่างและความรัก เพราะว่าพวกเราทุกคน มีส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างอยู่ในหัวใจของพวกเรา ซึ่งก็คือสิ่งที่ลงมาเวียนว่ายตายเกิดนี้ โดยการมามีชีวิตภพชาติแล้ว ภพชาติเล่าอยู่ในร่างกายเนื้อของเรา ที่อยู่บนโลกใบนี้ แต่จิตวิญญาณของเรา จะเทียวเข้าเทียวออก ร่างกายโน้น ไปร่างกายนี้อยู่ตลอดเวลา (เวียนว่ายตายเกิด-ผู้แปล)

บนโลกใบนี้ ฉันระลึกชาติได้ว่า ฉันเคยเกิดมาหลายพันชาติแล้ว นอกจากนี้ฉันยังเคยไปเกิดในส่วนต่างๆของโลก มาแล้วมากมายหลายแห่งอีกด้วย การระลึกชาติของฉัน ทำให้ความทรงจำฉันกลับคืนมา และทำให้ฉันสามารถพูดภาษาที่ฉันยังไม่เคยเรียนมาเลยได้ด้วย ดังนั้นในทางกายภาพแล้ว ฉันมีประสบการณ์กับทฤษฎีการเวียนว่ายตายเกิด นั่นก็ถูกต้องแต่อย่างไรก็ตาม ใครก็ตามที่ฟังการบรรยายครั้งนี้อยู่ ฉันคิดผู้คนเหล่านี้น่าจะปลอดภัย

พวกเรามีการแบ่งแยกกันเหลือเกิน ตั้งแต่ปี 1913 เพราะว่าคนที่เชื่อในเรื่องแบบนี้กับคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ ก็จะแบ่งแยกห่างออกจากกันลึกลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น ผู้คนในส่วนที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ก็จะไม่เชื่อในเรื่องนี้ เพราะว่าพวกเขาเป็นคนที่มืดบอดด้านจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะได้ไปเกิดในดาวดวงอื่น ที่เหมือนกับโลกใบนี้ ซึ่งที่นั่นก็จะมีความรุนแรง และมีสงครามเหมือนกัน แต่จะเป็นดาวดวงอื่น เอาหละคะ ตอนนี้พวกเราก็ได้เสร็จสิ้นการประชุมดีๆแบบนี้ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างรวดเร็ว ขอบคุณมากคะ


Princess Kaoru Nakamaru of Japan - About 2012 and the Underground Bases of the "elites"


ขอบคุณข้อมูลจากคุณ
Chayutt สมาชิกเว็บพลังจิต ที่แปลให้คนไทยได้อ่าน