วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อัพเดทล่าสุด รีวิว iphone 5 บทความ Review iphone5

iPhone 5 (ไอโฟน 5) : อัพเดทล่าสุด รีวิว iPhone 5 บทความ Review iphone5 (รีวิว ไอโฟน5) ฉบับเต็มจาก techmoblog พร้อมเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสียของ iphone5

หลังจากที่ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาเป็นวันแรก ใน 9 ประเทศ ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ทำให้ในตอนนี้ iPhone 5 (ไอโฟน 5) เครื่องหิ้วจากต่างประเทศ ได้ทยอยนำมาขายในไทยกันอย่างมากมาย และราคาiPhone 5 (ไอโฟน 5) เครื่องหิ้ว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละ 1,000 - 2,000 บาท ตามความต้องการซื้อ iPhone 5 (ไอโฟน 5) ที่มีอย่างมากมายนั่นเอง โดยในวันที่ 28 กันยายนนี้ iphone 5 (ไอโฟน 5) จะเปิดจำหน่ายในรอบที่ 2 อีก 22 ประเทศด้วย ซึ่งแน่นอนครับว่า ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทยเหมือนเช่นเคย

และตามคำสัญญาครับ เมื่อเว็บไซต์ techmoblog ได้มีโอกาส สัมผัส iPhone 5 (ไอโฟน 5) เครื่องจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงไม่รอช้า รีบนำบทความ รีวิว iPhone 5 (iphone 5 review) มาให้ได้อ่านกัน โดยจะเป็นการเจาะลึกทุกแง่มุมของ iphone5 (ไอโฟน 5) ว่า ดีขึ้นกว่า iPhone 4S จริงหรือไม่ บอดี้แบบใหม่บน iphone 5 (ไอโฟน5) นั้น สวยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า มากน้อยแค่ไหน ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ควรจะเปลี่ยนมาใช้งาน iPhone5 (ไอโฟน 5) เสียที ข้อดีข้อเสีย ของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) มีอะไรบ้าง บทความนี้ จะเป็นบทความที่ช่วยให้ท่าน ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะซื้อ iPhone5 (ไอโฟน 5) ดีหรือไม่

สเปค iPhone 5 (ไอโฟน 5)

- จอแสดงผลกว้าง 4 นิ้ว แบบ Retina Display Capacitive Touchscreen ความละเอียด 1136x960 พิกเซล (326 ppi)
- ระบบประมวลผลแบบ Dual-Core Processor ความเร็ว 1.0 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ (GPU) PowerVR SGX 543MP3
- ระบบปฏิบัติการ iOS 6
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1GB
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Full HD 1080p
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- รองรับเครือข่าย 2G, 3G และ 4G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.0, GPS (A-GPS)
- มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ Black & Slate และ สีขาว White & Silver

แกะกล่อง iPhone 5 (ไอโฟน 5)


สำหรับ กล่องของ iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้น สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือ กล่องของ iphone 5 (ไอโฟน5) จะมีการแยกสี โดยสำหรับรุ่นสีดำ ตัวกล่องจะเป็นสีดำ และรุ่นสีขาว ตัวกล่องจะเป็นสีขาวนั่นเองครับ โดยขนาดกล่องนั้นถือว่าใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย เพื่อรองรับหน้าจอที่มีขนาดยาวขึ้นกว่าเดิม และตัวกล่องยังคงใช้วัสดุเดียวกันกับกล่องของ iPhone รุ่นก่อนหน้าครับ



ภายในกล่องนั้นจะประกอบไปด้วย ที่ชาร์ตแบตเตอรี่แบบ Wall charge, สาย USB แบบใหม่ Lightning connector ขนาด 8-pin, อุปกรณ์สำหรับถอดถาดซิมการ์ดแบบ Nano-SIM card รวมไปถึง Apple EarPods และ คู่มือการใช้งาน


สำหรับ iPhone 4S นั้น ชุดหูฟังจะไม่ได้อยู่ในแพคเกจที่เรียบร้อยแบบนี้นะครับ แต่ใน iphone5 (ไอโฟน5) นั้น Apple EarPods จะถูกบรรจุอยู่ในแพคเกจที่สวยงาม ภายในกล่องของ iPhone 5 อีกที ซึ่งสามารถเก็บเมื่อไม่ใช้งานได้ง่าย และเป็นระเบียบอีกด้วย


และนี่คือ Dock Connector แบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Lightning connector บรรจุอยู่ภายในกล่องเช่นเดียวกัน


เนื่องจากเครื่องที่ทีมงานได้นำมาทดสอบในครั้งนี้ เป็นเครื่องที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ จึงทำให้ Adapter เป็นไปตามประเทศนั้นๆ แต่สำหรับรุ่นที่วางขายในไทย ก็จะเป็น Adapter ที่ใช้งานในประเทศไทย ได้ตามปกติ

รูปลักษณ์ และการออกแบบ iPhone 5 (ไอโฟน 5)


สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้นำมาทำการทดสอบ ในวันนี้คือรุ่น iPhone 5 (ไอโฟน 5) สีดำ Black & Slate ความจุ 16 GB โดยตัวเครื่องที่อยู่ภายในกล่อง จะมีพลาสติกใส ติดอยู่ที่ตัวเครื่อง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง


ด้านหลังของตัวเครื่อง จะเป็นแบบ ทูโทน (Two-tone) โดยสีดำ ในส่วนขอบบนล่าง จะเป็นกระจก ส่วนตรงกลางตัวเครื่องจะเป็น Anodized Aluminium ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกันกับที่ใช้บน MacBook นั่นเอง


 สำหรับด้านบนของตัวเครื่อง จะมีแค่เพียงปุ่ม เปิดปิด เครื่อง เท่านั้น โดยพอร์ตเชื่อมต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ถูกย้ายไปอยู่ด้านล่างแทน


ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เรียงจากซ้ายไปขวา ก็จะเป็น พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร ตามมาด้วย Build-in Microphone และ พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และชาร์จไฟ แบบใหม่ (Lightning connector) และสุดท้ายคือ Build-in Speaker ครับ

สำหรับด้านข้างฝั่งซ้าย ปุ่มที่เห็นเป็นสี่เหลี่ยมเรียวๆ อยู่นั้น สามารถทำงานได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักครับ โดยสามารถเป็นได้ทั้ง ปุ่มเปิด-ปิดเสียง หรือล็อคการหมุนของหน้าจอ (rotate) ส่วน 2 ปุ่มกลมๆ นั้น เป็นปุ่มสำหรับ เพิ่มลดเสียง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้า


ส่วนฝั่งขวานั้นจะมีเพียงช่องสำหรับ ใส่ซิมการ์ด โดยซิมที่ใช้บน iPhone 5 (ไอโฟน 5) นั้นก็จะเป็นแบบ Nano-Sim นั่นเองครับ


สำหรับกล้องด้านหน้านั้น ความละเอียดอยู่ที่ 1.2 ล้านพิกเซล รองรับการใช้งาน FaceTime ความละเอียดที่ 720p มีเซนเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่มืด ระบบ Face detection ตรวจจับตำแหน่งของใบหน้า นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งาน FaceTime บนเครือข่าย 3G และ 4G ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ส่วนของลำโพงสำหรับสนทนา ยังเป็นระบบแบบตัดเสียงรบกวน ทำให้สามารถได้ยินเสียงปลายสายได้ชัดเจนครับ


ในส่วนนี้ก็จะเป็น กล้องดิจิตอล iSight ด้านหลังของตัวเครื่อง ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash และไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียง ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง ตัวเลนส์ และไฟแฟลชครับ นอกจากนี้ iphone5 (ไอโฟน 5) ยังสามารถถ่ายวีดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD 1080p ครับ


INFO: http://www.techmoblog.com