วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

ตะลึง! พบ มัมมี่ ลึกลับที่ ห้องใต้หลังคา ในเยอรมนี

มัมมี่ในโลงหินที่เด็กชายพบในห้องใต้หลังคาของปู่

       เอเอฟพี - ตำรวจ และเจ้าหน้าที่นิติเวชเยอรมันกำลังเผชิญกับปริศนา ภายหลังที่มีเด็กชายวัย 10 ปีคนหนึ่งพบร่างมัมมี่มนุษย์บรรจุในโลงหิน ที่มุมหนึ่งในห้องใต้หลังคาของปู่
      
       จากการตรวจสอบด้วยเครื่องซีทีสแกนพบว่าร่างมัมมี่นี้ประกอบด้วย กะโหลกศีรษะมนุษย์ ซึ่งบริเวณเบ้าตาซ้ายมีลูกศรโผล่ออกมา และโครงกระดูกซึ่งแยกออกเป็นชิ้นใหญ่ๆ หลายชิ้นในอิริยาบถประสานมือไว้แนบอก ทั้งหมดนี้ได้รับการถนอมรักษาไว้เป็นอย่างดี หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นไครซ์ไซตุงรายงาน
      
       นอกเหนือไปจากมัมมี่ปริศนานี้แล้ว ในโลงศพยังมีรูปหล่อใบหน้าของผู้ตาย และผลการเอ็กซ์เรย์ชี้ว่ามีแผ่นโลหะปกคลุมโครงกระดูกที่มีความยาว 1.49 เมตรนี้ ซึ่งยังคงระบุไม่ได้ว่าเป็นเพศอะไร
      
       ลุทซ์ วูลฟ์กัง เคตทเลอร์ พ่อของเด็กชายที่พบมัมมี่กล่าวว่า พ่อของเขาที่เสียชีวิตเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เคยเดินทางไปแอฟริกาเหนือในช่วงทศวรรษ 1950 และอาจจะนำมัมมี่ร่างนี้กลับมาเป็นของที่ระลึกอันน่าสยดสยอง
      
       ผ้าที่ใช้พันมัมมี่ร่างนี้ซึ่งยังไม่ถูกแกะออก เพราะเกรงว่าศพจะได้รับความเสียหาย เป็นผ้าที่ถูกทอด้วยเครื่องจักรในช่วงศตวรรษที่ 20 เคตทเลอร์ ผู้มีอาชีพเป็นทันตแพทย์ซึ่งอยู่ร่วมการตรวจสอบด้วยเครื่องซีทีสแกนด้วยระบุ
      
       ทางด้านอันเดรียส เนอร์ลิช นักพยาธิวิทยาจากโรงพยาบาลโบเกนเฮาเซน ในเมืองมิวนิคให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ข่าวสปีเกลออนไลน์ว่า ถึงแม้กะโหลกและโครงกระดูกจะเป็นของจริง แต่มัมมี่ร่างนี้เป็น “ของปลอมที่ทำขึ้นมาจากศพของคนๆ เดียว หรือประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของคนหลายๆ คน”
      
       “สิ่งที่เราประสบอยู่ในตอนนี้เป็นคำถามที่ซ้อนอยู่บนคำถาม” นับตั้งแต่อเล็กซันเดอร์ ลูกชายของเขาพบมัมมี่นี้ราวหนึ่งเดือนก่อน เคตทเลอร์กล่าว
      
       เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการได้ลงบันทึกคดีนี้ซึ่งเกิดขึ้นในเมืองดีโฟลซ์ รัฐโลเวอร์แซกโซนีเอาไว้แล้ว และกำลังรอข้อมูลเพิ่มเติมว่าศพนี้มาจากไหน ก่อนที่จะตรวจดูความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฆาตกรรมอำพรางที่เพิ่งเกิดในยุคสมัยใหม่หรือไม่
      
       “เราจะรอจนกว่าจะทราบว่าโครงกระดูกนี้อายุเท่าไร” แฟรงก์ บาเวนดีก โฆษกตำรวจกล่าวกับสำนักข่าวดีพีเอของเยอรมนี “ถ้ามีอายุเป็นร้อยๆ ปี ก็แสดงว่าเป็นมัมมี่จริง และเราก็จะไม่สืบสวนต่อไปอีก”


INFO: http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000111232